แม้จะเป็นตัวทำเงินในวงการสื่อบันเทิงมานับ 10 ปี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงหลัง ๆ มานี้ ความนิยมในหนังหรือซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ดูจะน้อยลงกว่าช่วงพีค ๆ อย่างเห็นได้ชัด และมีแนวโน้มจะน้อยลงเรื่อย ๆ ด้วย ตัวอย่างคงไม่ต้องไปดูที่ไหนไกล เพราะไม่ว่าจะเป็น Ant-Man and the Wasp: Quantumania หรือ Shazam! Fury of the Gods ที่เพิ่งลงโรงในปีนี้ ต่างก็ทำรายได้น้อยกว่าเกณฑ์กันทั้งคู่ นี่ยังไม่รวมบรรดาซีรีส์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ อีก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนจะคิดว่า เดี๋ยวนี้คนเขาเบื่อหนังซูเปอร์ฮีโร่กันหมดแล้ว แต่จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศของคุณ James Gunn ผู้กำกับ Guardians of the Galaxy ทั้งสามภาคใน MCU และปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นหัวเรือใหญ่ของฝั่ง DCU เขากลับมองว่า ที่คนเขาเบื่อกันมันไม่ใช่ที่ตัวซูเปอร์ฮีโร่ แต่คนเขาเบื่อเนื้อเรื่องที่มันกลวงเสียมากกว่า
“มันก็จริงแหละครับที่คนเริ่มเบื่อซูเปอร์ฮีโร่กันแล้ว แต่ผมว่าคนเขาไม่ได้เบื่อกันที่ตัวซูเปอร์ฮีโร่หรอก” คุณ Gunn ให้สัมภาษณ์ในกรณีความนิยมที่ถดถอยของหนังซูเปอร์ฮีโร่ “มันอยู่ที่ว่าถ้าอยากจะบอกเล่าเรื่องราวแบบไหน คุณก็ต้องให้ความสำคัญกับตัวละครด้วย เรารักซูเปอร์แมน เรารักแบทแมน เรารักไอรอนแมน เพราะความเป็นตัวละครชั้นยอดคือสิ่งที่ทำให้เราจำพวกเขาได้ขึ้นใจ ถ้าหนังมีแต่อะไรก็ไม่รู้มันจะน่าเบื่อเอามาก ๆ ผมเองก็เบื่อหนังที่ดูตระการตาหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน เบื่อตรงมันไม่มีเรื่องราวที่น่าประทับใจให้เข้าถึงได้ มันไม่เกี่ยวเลยว่าต้องเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่รึเปล่า ถ้าคุณไม่มีเรื่องราวที่ดีมาเป็นรากฐาน มันก็แค่เหมือนดูคนมาต่อยกัน ไม่ว่าซีนมันจะดูดียังไงหรือเอฟเฟกต์มันจะดีแค่ไหน ที่สุดแล้วมันก็จะกลายเป็นความน่าเบื่อ ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในตอนนี้”
ผลงานที่น่าจะเป็นเรื่องสุดท้ายของคุณ Gunn กับ MCU อย่าง Guardians of the Galaxy Vol. 3 มีกำหนดเข้าฉายที่ประเทศไทยในวันพุธที่ 3 พฤษภาคมนี้ หลังจากนี้เขาน่าจะทุ่มเทให้กับโปรเจกต์ต่าง ๆ ใน DCU อย่างเต็มตัว โดยจะเริ่มที่ Superman: Legacy ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายภายในปี 2025
ที่มา: Rolling Stone
ติดตามข่าวสารวงภาพยนตร์ได้ที่เว็บไซต์ online-station.net
