รีวิวหนัง Last Night in Soho – ความหลอนแสนวิจิตรบนความฝันอันขื่นขม

สิ่งเดียวที่ผมรู้ก่อนจะได้รับชม Last Night In Soho ก็คือหนังเรื่องนี้มีน้องจอย Anya Taylor-Joy ร่วมแสดงนำเท่านั้น คือก็ไม่ได้ถึงกับเป็นแฟนคลับอะไรน้องเขา แต่ผลงานช่วงหลังๆ ของเธอค่อนข้างเตะตา ก็เลยพอได้เห็นข่าวผ่านๆ มาบ้าง ดังนั้นผมจึงค่อนข้างตกใจไม่น้อยตอนที่อินโทรของหนังเริ่มและมีชื่อของ Edgar Wright เข้าชื่อในฐานะผู้กำกับ

Last Night in Soho
Last Night in Soho

ใช่ครับ Edgar Wright ที่เคยทำหนังสุดวีบส์อย่าง Scott Pilgrims และงานซิ่งรถอดรีนาลีนเดือดอย่าง Baby Driver นั่นเอง คราวนี้พี่แกขอแหวกขนบงานตัวเองมาทำหนังสยองขวัญดูบ้าง ซึ่งพอเป็นอย่างนั้นผมก็ตื่นเต้นตั้งแต่ต้นเรื่อง เพราะไม่คิดว่าหนังจะทำโดยผู้กำกับมือดีคนนี้ และพอม่านของมันได้รูดลงพร้อมกับการจบนาฎกรรมอันเข้มข้นหลากรสและเปี่ยมสไตล์ที่โซโห ก็เชื่อแน่เลยว่าหลังจากนี้พี่แกก็ไปทำหนังอะไรก็ได้แล้วล่ะ เพราะ Last Night In Soho คืองานคราฟต์ที่วิจิตรและตระการตาชวนลุ่มหลงเอามากๆ

***บทความนี้ไม่มีสปอยล์

Last Night in Soho จะเล่าเรื่องของ Elois (Thomasine Mackenzie) เด็กสาวใสๆ แถบชนบทของอังกฤษผู้มีเซนส์พิเศษเห็นวิญญาณของแม่อยู่เป็นประจำ และอยากจะเรียนรวมถึงประสบความสำเร็จในการเป็นดีไซเนอร์ วันหนึ่งเธอได้รับทุนจากวิทยาลัยแฟชั่นให้เข้ามาเรียนต่อในลอนดอน จึงขอคว้าโอกาสไว้ไม่ให้พลาด ท่ามกลางความเป็นห่วงของผู้เป็นยายที่กลัวว่าเมืองหลวงอย่างลอนดอนจะกลืนกินหลานสาวไปอีกคน หลังลูกสาวเคยประสบเรื่องดังกล่าวมาแล้ว

Last Night in Soho
Last Night in Soho

จะว่าไป Last Night in Soho แม้หน้าหนังจะชูความเป็นหนังสยองขวัญทริลเลอร์นิดๆ แต่ตัวเรื่่องก็มีความเป็นคัมมิ่ง ออฟ เอจ สูงมาก พลอตแนวๆ สาวบ้านนอกมาเผชิญชีวิตในเมืองกรุงเป็นอะไรที่จับต้องได้ง่ายและหาได้ทั่วไป แต่น้อยเรื่องที่จะปรุงได้กลมกล่อมจนหาจุดติแทบไม่ได้อย่างเรื่องนี้ Edgar Wright เหมือนพาเราเข้าสู่ลอนดอนในย่านโซโหไปพร้อมๆ กับตัวละคร Elois พร้อมจะงุนงงแกมสับสนไม่คุ้นพื้นที่ไปกับนาง มันเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและความไม่รู้ ใสซื่อ แต่ก็ไม่กล้าไว้ใจ จุดนี้นักแสดงสามารถถ่ายทอดอารมณ์ที่ซับซ้อนผ่านแววตาออกมาได้อย่างดี ไม่ต้องพูดออกมามากว่ารู้สึกอย่างไร แต่คนดูสามารถเข้าใจได้

Last Night in Soho
Last Night in Soho

ตัวหนังดำเนินเรื่องแบบกระชับฉับไว เหมือนเรื่องเดินหน้าอยู่ตลอด แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องถูกเร่งนัก เป็นเพซที่พอดีมากๆ ในการเล่าเรียงเรื่องราว พร้อมๆ กับเร้าจังหวะให้คนดูตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ ช็อตที่ Elois ก้าวสู่ลอนดอนยุค 60 เป็นครั้งแรกต้องบอกว่าตระการตามากๆ ไล่เรียงไปจนกระทั่งพบกับ Sandy (Anya Taylor-Joy) ก่อนจะฉาบทับภาพด้านสว่างของเมืองด้วยความลับอันดำมืดอันนำมาซิ่งความสยองสุดพรั่นพรึงที่ซ่อนอยู่ด้านใน

Last Night in Soho
Last Night in Soho

พูดถึงความน่ากลัว ผมว่าหนังไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น แต่มีช็อตจั๊มสแกร์ที่เล่นเอาสะดุ้งอยู่ที 2 ที อย่างไรก็ตามความน่ากลัวอันไม่มากไม่มายของมันกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยสไตล์การนำเสนอที่ผ่านกระบวนการคิดและโปรดักชั่นเป็นอย่างดี การเล่นแสงสีจากไฟนีออนก็ทำได้โดดเด่น เช่นเดียวกับการวางเพลงที่เฉียบขาดเป็นซิกเนเจอร์ของผู้กำกับก็ยังคงอยู่ไม่เสื่อมคลาย เมื่อผนวกกับการแสดงอันเฉียบขาดของทั้ง 2 นักแสดงนำที่น่าทึ่งทั้งคู่ก็สามารถพูดได้ว่า Last Night in Soho คืออีกหนึ่งงานที่ Edgar Wright สามารถโชว์ประดับพอร์ทตัวเองได้อย่างไม่เคอะเขินแต่อย่างใด

Last Night in Soho
Last Night in Soho

Last Night in Soho อาจไม่ใช่หนังสยองขวัญที่เน้นการหลอกขยี้ให้น้ำตาแตกอะไรขนาดนั้น แต่ความหลอนของมันทั้งตีความได้หลากหลายและมีสไตล์ นอกจากนี้งานภาพที่งดงามมากๆ ไม่ว่าจะทิวทัศน์ แสงสี หรือคอสตูมที่ปังมันทุกชุด ก็อยากจะย้ำเตือนจริงๆ ว่ามันคือภาพยนตร์และคุณควรมาดูในโรงเพื่อเสพความวิจิตรจากงานขบวนนี้ของ Edgar Wright ที่หากจะมีข้อติก็อย่างเดียวที่ช่วงท้ายผมคงต้องการอะไรที่มันชวนอดีนาลีนพุ่งพล่านกว่านี้อีกสักหน่อย แม้กระนั้นเท่าที่เขาทำออกมาก็สามารถบอกได้ว่ากลมกล่อมสุดๆ อยู่แล้ว

Last Night in Soho
Last Night in Soho

ขอขอบคุณ Major Cineplex ที่สนับสนุนการชมภาพยนตร์ในครั้งนี้ครับ


VERDICT

9/10


ดูรอบหนัง และจองตั๋วได้ คลิกที่นี่ https://www.majorcineplex.com/movie/last-night-in-soho

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้