เป็นที่ทราบกันดีว่า Henry Cavill เป็นนักแสดงที่มีความเป็นเกมเมอร์ระดับฮาร์ดคอร์ และก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เข้าได้มารับบทนำใน The Witcher ฉบับซีรีส์ของ Netflix และความฮาร์ดคอร์ของเขาก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยทีเดียว
โดยทาง Henry Cavill ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทาง Total Film โดยเขาได้เล่าว่าในระหว่างช่วงล็อกดาวน์ในระหว่างการถ่ายทำ The Witcher ซีซั่นที่ 2 ทำให้เขาได้มีเวลาว่างในการกลับมาเล่นเกม The Witcher ในระดับยากสุดเท่าที่ตัวเกมมีอีกครั้ง
ซึ่งตัวเขาก็รู้สึกว่ามันมีความตึงเครียดเป็นอย่างมากและก็ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้มีเวลาว่างในการเล่นเกมแบบนั้นอีกแล้ว
โดยเกม The Witcher อาจจะไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องความยากมากนักแต่เกม The Witcher 2: Assassins of Kings ก็มีโหมดการเล่นในระดับ Insane ให้ได้เลือกปรับที่ศัตรูจะโจมตีอย่างรุนแรงใส่ผู้เล่นตลอดเวลาและไม่สามารถโหลดเซฟได้หากผู้เล่นตายให้เลือกปรับ
และใน The Witcher 3: Wild Hunt ก็มีความยากในระดับ Death March ที่ศัตรูธรรมดาสามารถฆ่าผู้เล่นได้ภายในการโจมตีครั้งเดียวด้วย ซึ่งการที่ Henry Cavill สามารถเล่นเกมได้ในระดับนี้ก็ต้องยอมรับว่าเขามีฝีมือการเล่นเกมที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
