Fanny SiamDream กับการกำเนิดใหม่ในโลกที่เคยถูกปฏิเสธ
Fanny น่าจะเป็นชื่อที่หลายๆ คนในแวดวงไอดอลคุ้นเคยกันไม่มากก็น้อยในฐานะเมมเบอร์ตัวท็อปของวงไอดอลวงหนึ่งซึ่งปิดตัวไปแล้ว แม้จะได้คะแนนโหวตมากมาย แต่หากว่ากันตามตรงกับวงเดิมเธอยังไม่ทันจะได้โชว์ศักยภาพและเพอร์ฟอร์แมนซ์ของตัวเองมากนักก็ต้องมาเจอทางตันเสียก่อน
ท่ามกลางความเคว้งของชีวิต Fanny ได้มีโอกาสกำเนิดใหม่ในฐานะไอดอลอีกครั้งภายใต้วงและสังกัดที่ครั้งหนึ่งเคยปฏิเสธเธอไป และเราจะใช้โอกาสนี้มาคุยกับเธอกัน
1. ก่อนอื่นอยากให้แนะนำตัวเล็กน้อย
สวัสดีค่า แฟนนี่ สีม่วงสยามดรีมค่า
2. ก่อนจะมาอยู่ SiamDream ทำอะไรมาก่อนครับ
ก่อนหน้านี้เป็นศิลปินฝึกหัดหรือเรียกว่าเทรนนี่ ภายใต้สังกัดของประเทศเกาหลีใต้ค่ะ ก็กลับมาเรียนต่อจนจบด้านนิเทศศาสตร์ และยังคงอยากจะสานฝันด้านนี้ต่อ จึงเริ่มสมัครออดิชั่นวงไอดอลในไทย จนติดเป็น 1 ใน 9 วง Survival วงหนึ่งแนว pop- rock แต่ต่อมาวงดังกล่าวได้ประกาศยุบไป ก็เคว้งไปพักหนึ่งค่ะ จนได้รับการติดต่อจากวงสยามดรีมและเข้ามาเป็นเมมเบอร์วง สยามดรีมค่ะ
3. ความรู้สึกตอนได้รับการติดต่อครั้งแรกเป็นอย่างไร
ช็อกค่ะ (หัวเราะ) คือตอนแรกแบบ เอ๊! จริงรึเปล่าเนี่ย? ถามจริงหรือหยอกเล่น คือด้วยช่วงชีวิตเวลานั้นมันทำให้เราอดตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบปุบปับ ว่ามันเรื่องจริงหรอ? อย่างช่วยไม่ได้ เพราะเราก็เคยไปออดิชั่นกับวงนี้มาแล้วแต่ไม่ติด รู้สึกเฟลมากๆ จำได้ว่าตอนนั้นถามตัวเองตลอด จะไปไหนต่อยังไงดี แต่พอมาตอนนี้กลับได้รับโทรศัพท์ติดต่อให้มาเข้าวงเลยก็แบบ ถามจริ๊ง~! ตอนคุยโทรศัพท์กับพี่ดลคือเสียงสั่นด้วย ใจเต้นตุบๆ มันตื่นเต้น ตกใจ งงไปหมดเลยค่ะ เหมือนในหัวอะไรๆ มันก็แล่นแบบเร็วไปหมด เป็นภาวะอารมณ์ที่อธิบายได้ยากมากจริงๆ
4. กดดันไหมที่เข้ามาเป็นสีม่วงแทนนิโกะ
กดดันมากๆ ค่ะ เดิมทีก็ตามสาย j-pop พอโอชิแกรดก็เข้าใจความรู้สึก แถมเรายังเข้าไปแทนอย่างรวดเร็วหลังการประกาศแกรดอีกต่างหาก ทำให้ในแง่หนึ่งก็กดดันจากสถานการณ์ด้วย กลัวเรื่องกระแสและ feedback รวมไปถึงความคาดหวังจากรอบข้างค่ะ อีกทั้งเรายังยังเริ่มงานทันที จึงค่อนข้างกดดันไม่อยากเป็นปัญหาให้กับเมมเบอร์คนอื่นในวง นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องที่สำคัญอย่างความรู้สึกของเมมเบอร์กับแฟนคลับในการที่มีคนใหม่เข้ามาอย่างกะทันหันอีกด้วย ทั้งหมดทั้งมวลมันกดให้เราเตรียด, กดดัน, อึดอัด ไม่อยากพลาด
5. จุดเด่นของตัวเองคิดว่ามีด้านไหนบ้าง
เป็นคนมองโลกในแง่บวกแล้วก็สนุกไปกับทุก เพอร์ฟอร์แมนซ์เพื่อส่งพลังบวกมั้งคะ ปิ้วๆ (หัวเราะ) แต่ว่าจริงๆ แล้วอาจจะเป็นเรื่องของการพูดการสื่อสาร เพราะหลายครั้งพูดแล้วคนฟังจะงงๆ อาจเพราะการเรียงประโยคที่แปลกค่อนข้างประหลาด รวมถึงการออกเสียง และการขาดสติเวลาพูดของหนูค่ะ (หัวเราะ) เป็นไงคะ ตอนนี้ถือว่าพูดรู้เรื่องไหมนฟะ (หัวเราะอีกที)
6. ความประทับใจตั้งแต่มาอยู่ในวง SiamDream มีอะไรบ้าง แล้วชอบเพลงไหนของวงมากที่สุด
อย่างแรกที่นึกถึงเลยก็คือวันแรกที่เข้าไปซ้อมค่ะ มันเกิดขึ้นหลังจากได้รับการติดต่อมาหนึ่งวัน เป็นวันที่เมมเบอร์คนอื่นๆ ในวงรู้เรื่องการเข้ามาแทนของเรา คือถึงทุกคนจะยังเสียใจมากๆ อยู่ แต่ก็ต้อนรับเราอย่างอบอุ่นค่ะ รวมไปถึงงานแรกๆ ที่พี่ๆ แฟนคลับทุกคนต่างก็มาให้กำลังใจ คอยถามไถ่ไม่ทำให้รู้สึกเหงาค่ะ ดีใจมากๆ เลย
จนถึงตอนนี้ทั้งเมมเบอร์ทุกคนก็น่ารักมากเวลาอยู่ด้วยกันสนุกมากค่ะ~ พี่ๆ แฟนคลับก็อบอุ่นและใจดีมากๆ ทีมงานก็น่ารักคอยสอนคอยแนะนำและดูแลเสมอค่ะ
ส่วนเพลงที่ชอบที่สุด อืม… เลือกยากมากๆ เลยนะคะเนี่ย ความจริงชอบทุกเพลงแต่มีเหตุผลที่ชอบต่างกันไป แต่ถ้าชอบและอินสุดก็คงเป็นเพลง “Hi-Touch” ค่ะ โดยเฉพาะท่อน “ก่อนจะได้มาถึงวันนี้ ฉันเคยแพ้มาก่อน แต่ในตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว ฉันยืนขึ้นได้เอง” อินจัดมากๆ ทุกครั้งที่ได้ร้องเลยค่ะ
7. ผู้จัดการดุไหม
คือพี่ดลดูดุมาก ยิ่งตอนหน้านิ่ง หรือเวลากำลังคิดอะไรบางอย่าง บางทีพี่แกอาจพูดเล่น แบบแกล้งดุหรือดุจริงก็งงค่ะ (หัวเราะ) หนูก็กลัวไง กลัวไว้ก่อน ก็เลยเอาที่ไม่โดนดุก่อนละกัน ไม่อยากโดนดุอะ (หัวเราะอีกที)
8. ไอดอลในดวงใจหรือที่ติดตาม ชอบเพราะว่าอะไร
Wada Ayaka อดีตลีดเดอร์ ANGERME ค่ะ ตามมาตั้งแต่เป็นเด็กไข่ Hello Project Egg เหมือนเด็กฝึก จนได้เข้ายูนิตร้องเพลงประกอบอนิเมะ เมเจอร์เดบิวต์ กลายเป็นลีดเดอร์ เราได้เห็นเขาพัฒนาตัวเอง เอนเตอร์เทนแฟนๆ และความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าวง นับว่าเป็นไอดอลในดวงใจคนแรก และก่อเกิดแรงบันดาลใจทำให้เราอยากเป็นไอดอลมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
ส่วนอีกคนก็คือ Jeong Sewoon ติดตามหลังไปเทรนที่เกาหลีค่ะ ชอบเพราะแนวเพลงที่ร้อง เนื้อเสียงที่นุ่ม เล่นดนตรีเก่งโดยเฉพาะกีต้าร์ แถมยังแต่งเพลงได้ เต้นก็ได้ค่ะ
9. นอกจากเรื่องการเป็นไอดอลแล้วมีความสนใจด้านอื่นๆ บ้างไหม
ก็มีสนใจด้านดนตรีค่ะ ขอบเล่นดนตรี แล้วก็มีเรื่องของภาษา รวมถึงการทำขนมค่า
10. ความคาดหวังต่อตัวเองในอนาคต อยากทำบางสิ่งให้สำเร็จ หรืออยากพาตัวเองไปถึงจุดไหน
ความคาดหวังต่อไปในอนาคตคือการพัฒนาในด้าน ร้อง เต้น เล่นดนตรี เพื่อไปถึงจุดที่สามารถเป็นนักร้องหรือศิลปินต่อไปในอนาคต รวมถึงได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและมอบความสุขให้กับทุกๆ คนค่ะ
11. ทิ้งท้ายกับแฟนๆ สักหน่อย
ขอบคุณทุกคนจากใจจริง ที่คอยสนับสนุน เป็นกำลังใจและเป็นความสุขของหนู ทั้งตอนนี้และต่อจากนี้ ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวไว้ด้วยนะคะ อยากจะบอกว่า ทุกๆ คนสำคัญกับหนูมากๆ เพราะว่ามีทุกคน เลยมีหนูในทุกวันนี้ นอกจากความฝันที่อยากทำตรงนี้ หนูยังฝันอีกด้วยว่าอยากเป็นผู้มอบพลังบวกให้กับแฟนคลับทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือแรงบันดาลใจเล็กๆ น้อยๆ
เพราะงั้น… อยู่กับหนูและเดินไปด้วยกัน… เรามาก้าวไปด้วยกันนะคะ
