Searching กลายเป็นหนังม้ามืดอีกเรื่องของปีนี้ที่ประสบความสำเร็จเกินคาดกับผลงานการกำกับของโปรดิวเซอร์อย่าง Timur Bekmambetov ที่เป็นการนำเอาหน้าจอคอมพิวเตอร์มาเล่าเรื่อง ซึ่งเขาได้ให้นิยามว่ามันเป็นหนังแนว “Screen Life” และ Searching นั้นก็เป็นหนังเรื่องที่ 3 ของเขาแล้วที่ใช้เทคนิคในการเล่าแบบนี้ต่อจากหนังสยองขวัญอย่าง “Unfriend” ซึ่งจากบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับทาง LA Times ตัวของ Timur Bekmambetov ก็ยังได้โวอีกด้วยว่าเขามีหนังถึง 14 เรื่องเลยทีเดียวที่จะใช้เทคนิคในการสร้างแบบนี้
(ภาพจาก: The Verge)
โดย Timur Bekmambetov เรียกหนังของเขาว่าเป็นหนังประเภท “Screen Life” ที่มีความคล้ายคลึงกับหนังประเภท “Found Footage” ที่เคยเป็นที่นิยมกันก่อนหน้านี้ โดยมันจะเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของกล้องเว็บแคมและกิจกรรมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์มาร้อยเรียงให้กลายเป็นภาพยนตร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2014 ก็มีหนังเล็กอย่าง The Den เคยนำเสนอมาแล้ว แต่มันก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนักจนมาถึงหนัง Unfriend ในปี 2015 ของ Timur Bekmambetov ที่ได้กลายเป็นหนึ่งในหนังที่สร้างกระแสให้กับกลุ่มผู้ชมอยู่ในช่วงหนึ่ง
และแน่นอนว่าหนัง Unfriend นั้นก็เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมันทำเงินไปกว่า 64 ล้านเหรียญสหรัฐจากทุนสร้างเพียงแค่ 1 ล้านเหรียญเท่านั้น จนมันได้ถูกสร้างภาคต่อออกมาหลังจากนั้นไม่นาน แต่มันด้วยคำวิจารณ์ที่ดูจะผสมปนเปไปทั้งแง่บวกและแง่ลบ ก็น่าจะทำให้มันไม่ได้ไปต่อในท้ายที่สุด
“ผมไม่รู้ว่ามันแย่หรือมันดีนะ แต่ผมรู้สึกว่าชีวิตของผมครึ่งหนึ่ง และส่วนที่มันสำคัญมากที่สุดในชีวิตของผมมันอยู่บนหน้าจอที่ใช้งานอยู่ในทุกวันนี้” Timur Bekmambetov อธิบาย “ผมทำให้ผมได้ค้นหาเพื่อนๆ เสียเพื่อนไป ตกหลุมรัก สูญเสียคนที่ผมรัก ทำโปรเจกต์ใหม่ๆ ร่วมมือกันทำงาน และต่อสู้กันถกเถียง”
ซึ่งเขาได้อธิบายอีกด้วยว่ามันเป็นหนังที่มีตัวละครเป็นคนผลักดันเรื่องราวให้เดินไปข้างใน และทำให้ผู้ชมเชื่อมถึงความรู้สึกต่างๆ ของตัวละครได้เป็นอย่างดี แม้ว่าในปัจจุบันมันจะยังโฟกัสอยู่กับแค่หนังแนวทริลเลอร์ หรือสยองขวัญเท่านั้น แต่มันก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะขยายแนวทางของหนังเรื่องนี้ออกไปอีก ซึ่งในอีก 18 เดือนต่อจากนี้เขาก็มีโปรเจกต์เกี่ยวกับหนังแนวนี้อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นหนังตลกหรือหนังรอมคอม ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
(ภาพจาก: CNET)
ซึ่งหนัง Screen Life อย่าง Searching นั้นก็เป็นการนำเสนอในรูปแบบของหนังทริลเลอร์ ที่นำแสดงโดย John Cho ที่ต้องมารับบทเป็นพ่อที่ต้องออกตามหาลูกสาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ โดยใช้เงื่อนงำจาก Social Media ต่างๆ ที่ได้นำพาให้เขาได้รู้จักตัวตนอีกด้านของลูกสาวที่เขาไม่เคยรู้ และมันก็จะเข้าโรงให้เราได้ชมกันแล้วในวันที่ 23 สิงหาคม นี้
ที่มา: Coming Soon
