รีวิว FoG สงคราม MOBA Pixel สุดเดือดสุดมันส์บนมือถือ
ก็พึ่งเปิดให้บริการกันไปไม่นานสำหรับ FoG เกมแนว MOBA Brawler บนมือถือ ที่เปิดให้บริการโดยค่าย GODLIKE Games นั่นเองครับ หลายคนน่าจะได้ลองเข้าไปเล่นกันแล้ว (และก็ติดงอมแงมแบบผมแล้วด้วย ฮ่าๆ ) ก็คงจะพอเข้าใจกันบ้างว่าตัวเกมเป็นอย่างไร แต่ใครที่ยังไม่ได้สัมผัส หรือตัดสินใจอยู่ วันนี้ผมมีรีวิวแบบจัดเต็มมาฝากเพื่อนๆ กันด้วยครับ จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย
อัดกันยับๆ แบบ Pixel จบในไม่เกิน 5 นาที
สิ่งที่แรกที่จะพูดถึงกันเลยก็คือตัวเกม FoG แม้ว่าทางผู้ให้บริการจะบอกว่าเป็นแนว MOBA ก็ตามที แต่ส่วนตัวรู้สึกว่ามันเป็นเกมแนว Brawler หรือ Battle Arena มากกว่า (จริงๆ MOBA มันก็ย่อมากจาก Massive Online Battle Arena หล่ะนะ แต่ส่วนใหญ่จะตีความว่าต้องมีครีป มี 3 เลน อะไรพวกนี้) ด้วยความที่ตัวเกมในหลายๆ โหมดจะเป็นการบังคับตัวะลรเข้าต่อสู้กับฝั่งตรงข้ามโดยตรง พร้อมกับการทำภารกิจตามโหมดให้สำเร็จ ทำให้เกิดการปะทะกันได้ตลอดเวลาและรวดเร็ว ในระหว่างการต่อสู้เองก็จะมีการหยิบเก็บไอเทมที่ดรอปมาติดตัวไว้ใช้ได้สูงสุดคนละ 2 ชิ้น สามารถประยุกต์ใช้ระหว่างการต่อสุ้ได้ดี รวมไปถึงหากต้องการที่จะฟื้นฟู HP ระหว่างต่อสู้ เพียงแค่เดินหนีเว้นระยะจากการต่อสู้ซักพัก HP ก็จะค่อยๆ ฟื้นฟูจนเต็ม แล้วก็สามารถกลับไปต่อสู้ได้อย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว ที่สำคัญสุดเลยก็คือเหมาะกับคนที่ชอบเล่นระหว่างทางหรือระหว่างพักแต่มีเวลาไม่มาก เพราะแต่ละเกมเฉลี่ยๆ จะตกอยู่ที่ 10 นาทีเท่านั้นเองครับ
ฮีโร่ทั้ง 5 สาย
มาต่อกันในเรื่องของเหล่าฮีโร่ที่มีให้เลือกภายในเกมกันดีกว่าครับ สำหรับ FoG ตอนนี้มีฮีโร่ให้เลือกทั้งหมด 25 ตัว ถ้าหากจะพูดเรียงตัวให้ครบทุกตัวก็คงจะยาวไป แต่ว่าตัวเกมจะมีการแบ่งประเภทของฮีโร่ออกเป็นทั้งหมด 5 ประเภทตามลักษณะเด่นของแต่ละตัว ได้แก่
1.Warrior – สายอาชีพนักรบที่โดดเด่นมากที่สุดในเรื่องความถึก จะมีค่า HP และมีความสามารถในการเอาตัวรอดที่ดี หรือบางตัวก็จะมีพลังโจมตีที่สูงเข้ามาทดแทนพลังป้องกันที่หายไปส่วนหนึ่ง เหมาะที่จะเอาไว้เป็นแนวหน้าเข้าชนให้กับทีมอย่างมาก แต่ข้อเสียหลักน่าจะเป็นเรื่องของทุกตัวในสายนี้จะเป็นการโจมตีระยะใกล้แม้ว่าจะถึกหรือรุนแรงแต่ความคล่องตัวอาจจะน้อยกว่าสายอื่นๆ อยู่ไม่น้อย ตัวที่แนะนำก็คงจะเป็น Ryan ที่แถมมาให้แต่แรกนั่นแหละครับ
2.Mage – สายอาชีพจอมเวทกับการใช้พลังเวทในการโจมตีระยะไกล เน้นพลังโจมตีที่รุนแรงอย่างมาก กับความสามารถในการโจมตีเป็นกลุ่มวงกว้างหรือที่เรียกว่า AoE หลายตัวจะมีความสามารถเพิ่มเติมในการทำ CC ให้กับทีมอีกด้วยครับ แต่ข้อเสียหลักของสายอาชีพนี้เลยก็คือความบอบบางจะน้อย (แต่ไม่น้อยที่สุดนะ) และความคล่องตัวในการเล่นจะต่ำมาก ยังดีที่มี CC ช่วยเหลือในการเอาตัวรอดได้บ้าง ตัวแนะนำคงเป็น Bernini ที่เล่นง่ายไม่ยุ่งยากครับ
3. Assassin – สายอาชีพนักฆ่ามือสังหารที่ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างความเสียหายได้รุนแรงและรวดเร็วมากๆ แม้ว่าค่าสถานะที่หน้าฮีโร่จะดูมีพลังโจมตีไม่ค่อยสูงมากในหลายๆ ตัว แต่ด้วยสกิลที่มีคูลดาวน์น้อย หรือบางสกิลก็มีการโจมตีที่มีผลต่อเนื่อง ภาพรวมจึงทำให้สายนี้มีการสร้างความเสียหายที่สูงและต่อเนื่องนั่นเองครับ แต่ข้อเสียใหญ่เลยก็คือจะเป็นสายที่ตัวบางที่สุด แถมยังเป็นการโจมตีระยะประชิดเสียด้วย ทำให้ต้องค่อนข้างใช้ฝีมือในการเล่นระดับหนึ่งเลยครับ ตัวแนะนำน่าจะเป็น Mitsui ที่สกิลเข้าใจง่าย เล่นง่าย กดบัฟ ตีๆ จบไป
4.Shooter – สายอาชีพเหล่าผู้มีสายตาดี มีความสามารถโดดเด่นในเรื่องของการโจมตีจากระยะไกลด้วยอาวุธจำพวก ธนู ปืน แม้ว่าจะเป็นการโจมตีระยะไกล แต่จะต่างกับ Mage อยู่บ้างตรงที่ระยะส่วนใหญ่จะไกลกว่า มีความสามารถในการโจมตีต่อเนื่องมากกว่า ทำให้ภาพรวมสามารถสร้างความเสียหายในระยะไกลได้ง่ายกว่า แต่ข้อเสียก็เป็นเรื่องของการเอาตัวรอดที่สายนี้จะไม่ค่อยมีสกิลเอาตัวรอดกันซักเท่าไหร่นักเพราะไปเน้นโจมตีมากกว่า CC น้อยมาก ตัวที่แนะนำก็คือ Kate ที่แจกมาตอนแรกนั่นแหละครับ
5.Support – สายสนับสนุนเพื่อนรักปาร์ตี้หลง มีความสามารถหลักในการสนับสนุนการต่อสู้ให้กับเพื่อนร่วมทีมอย่างเช่นพวกการฟื้นฟู การบัฟเพิ่มความสามารถต่างๆ หรือแม้กระทั่งการขัดขวางศัตรูทำให้ทีมตัวเองเล่นได้ง่ายขึ้น แม้ว่าในตอนนี้จะมีให้เล่นแค่ 3 ตัว แต่ว่าแต่ละตัวก็มีวิธีการสนับสนุนได้ไม่เหมือนกันนะ ดังนั้นคนที่อยากเล่นสายนี้อาจจะต้องอ่านสกิลของฮีโร่แล้วเลือกที่เข้ากับตัวเองจะดีกว่าครับ
โหมดการเล่นทั้ง 4 โหมด
อย่างที่ทราบกันไปบ้างแล้วว่า FoG จะมีโหมดการเล่นแบ่งออกเป็นโหมดใหญ่ๆ ด้วยกัน 2 อย่างก็คือ Classic หรือโหมดพื้นฐานของเกมที่จะมีให้เล่นกันอยู่ตลอดเวลา กับ Limited โหมดพิเศษต่างๆ ที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเข้าไปเล่น โดยอาจจะมีเวลาจำกัดหรือมีของรางวัลพิเศษ และจะมีอัพเดตเพิ่มขึ้นในอนาคตเรื่อยๆ ครับ
ดังนั้นเรามาดูกันก่อนว่าโหมดพื้นฐานตอนนี้ที่มีด้วยกันทั้งหมด 3 โหมดจะมีดังต่อไปนี้
1.Force Rite – โหมดการเล่นพื้นฐานที่จะแบ่งออกเป็นฝั่งละ 3 คน 2 ฝั่ง เป้าหมายหลักก็คือการครอบครองลูกแก้วทั้งหมด 10 ลูกด้วยกัน โดยลูกแก้วนั้นจะสามารถหาได้จากจุดสร้างลูกแก้วกลางแผนที่ เมื่อเราไปยืนเหยียบตอนจุดตรงกลางเกจเต็ม ก็จะมีลูกแก้วโผล่ขึ้นมา 1 ลูก หากฝั่งไหนถือลูกแก้วครบ 10 ลูกขึ้นไปได้ต่อเนื่องเป็นเวลา 15 วินาที จะเป็นฝ่ายชนะ ฟังดูเหมือนจะง่ายแต่ก็มีความยากของมันอยู่ไม่น้อยเลยครับ เพราะเมื่อเราถือลูกแก้วไม่ว่าจะกี่ลูกก็ตาม หากเราเกิดพลาดท่าตายขึ้นมา ลูกแก้วจะดรอปลงพื้นและทุกคนจะสามารถมาเก็บได้ทันที ดังนั้นในวิธีการเล่นในโหมดนี้ที่ดีก็คืออาจจะต้องตกลงกันว่าใครที่มีความสามารถในการเอาตัวรอดได้ดี จะเป็นคนเก็บลูกแก้วหลัก ที่เหลือคอยไปดอยลูกแก้วจากฝั่งตรงข้ามหรือปกป้องคนที่ถือลูกแก้วให้ดี พอเก็บครบแล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปบวกกับอีกฝั่ง หาที่ซ่อนวิ่งหนีไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้ทีมได้รับชัยชนะมาได้ไม่ยาก
2.D-Gladiator – โหมดแบบเล่นคนเดียว (ในอนาคตจะมีแบบที่สามารถเล่นเป็นทีมได้) ที่จะส่งเราเข้าสู่สนามรบแบบสุ่มพร้อมกับผู้เล่นคนอื่นอีก 11 คนด้วยกัน เราจะต้องทำการเอาตัวรอดจากสนามรบนี้ให้ได้ ใครที่เป็นคนสุดท้ายที่มีชีวิตอยู่บนสนามรบนี้จะเป็นผู้ชนะไปนั่นเองครับ แม้ว่าขนาดของแผนที่จะดูกว้างก็จริง แต่เมื่อเล่นไปซักพักก็จะเริ่มมีบ่อพิษคอยบีบวงเข้ามาตรงกลางแผนที่ ทำให้เมื่อเล่นไปซักพักพื้นที่ในการต่อสู้จะแคบลงจนถูกบังคับให้มาเจอกันในที่สุดอยู่ดีครับ และเวลาที่ฮีโร่ตายจะถูกเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นวิญญาณ หากเอาตัวรอดในสภาพวิญญาณได้ในเวลาที่กำหนด ก็จะสามารถกลับมาลงสนามต่อได้โดยมีเลือดให้ 1/3 หลอดครับ สำหรับการเล่นในโหมดนี้ไม่มีใครเป็นที่พึ่ง เราจะต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเองให้ได้ บางครั้งการต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปเช่นกันครับ
3.Valor Arena – โหมดการเล่นแบบฝั่งละ 3 คนอีกโหมดหนึ่ง โดยภารกิจในโหมดนี้จะเป็นการทำลายหอคอยคริสตัลของอีกฝ่ายให้ได้นั่นเองครับ แต่ว่ามันไม่สามารถเดินดุ่ยๆ เข้าไปโจมตีฐานคริสตัลได้เลยทันที เพราะว่าตรงกลางของฉากนั้นจะมีบอสมอนสเตอร์เกิดอยู่ เราจะต้องทำการโจมตีบอสตรงกลางฉากเพื่อให้ดรอปไอเทมบอสออกมา โดยจะเป็นไอเทมที่เอาไว้เรียกบอสเพื่อมุ่งไปโจมตีฐานคริสตัลของฝ่ายตรงข้ามได้ ดังนั้นทั้ง 2 ฝ่ายนอกจากจะต้องขัดขวางกันด้วยการโจมตีฝ่ายตรงข้ามแล้ว ยังต้องแย่งชิงบอสมาเป็นกำลังให้กับฝ่ายตัวเองอีกด้วย แต่ในแผนที่ก็ไม่ได้มีแค่บอสเฉยๆ นะ ยังมีมอนสเตอร์หมีกับไก่ที่อยู่ทางด้านบนและล่างของแผนที่ที่จะทำหน้าที่เดียวกับกับบอสอีกด้วย ทำให้เราอาจจะต้องแบ่งคนไปคุมเชิงบอส แบ่งคนไปตีน้องหมีน้องไก่เพื่อเอาไปตอดฐานฝ่ายตรงข้าม โหมดนี้อาจจะเสียเวลาเล่นเยอะหน่อย แต่ก็จะเฉลี่ยอยู่ที่ 10 นาทีเช่นกันครับ
สำหรับโหมดคลาสสิคก็จะมีเท่านี้ จะเห็นได้ว่าแต่ละโหมดก็มีวิธีการเล่นที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เราสามารถสลับเล่นไปเรื่อยๆ โดยไม่เบื่อได้ครับผม นอกจากนี้ก็ยังเหลืออีกโหมดนึงใน Limited ที่ตอนนี้ทาง FoG ยังมีให้เล่นกันอยู่โหมดเดียวนั่นก็คือ Abyss Dungeon ครับ
Abyss Dungeon – เป็นโหมดพิเศษที่จะสามารถเข้าได้หลังจากที่ตัวละครเรามีเลเวล 15 ขึ้นไป และจะต้องใช้ตั๋วในการเข้า 20 ใบด้วยกันครับ ภายในโหมดนี้ตัวเกมจะให้เราแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ทีม ทีมละ 3 คน เป้าหมายของทุกทีมคือจะต้องเข้าโจมตีบอสเพื่อสร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุด ระหว่างนั้นเองก็ต้องขัดขวางฝั่งตรงข้ามไปด้วย แต่ฝั่งตรงข้ามที่ว่านี่คืออีก 3 ทีม รวมเป็น 9 คนเลยทีเดียว แถมบอสในโหมดนี้บอกเลยว่าโหดสุดขีดมากๆ การโจมตีครั้งนึงบอกเลยว่ามีสะดุ้งแน่นอนครับ เป็นอีกโหมดที่เล่นได้สนุกมากจริงๆ
เสริมความเก่งตัวละครด้วยระบบกระตุ้น Awakening
แม้ว่าฮีโร่แต่ละตัวจะมีค่าพลังสถานะเริ่มต้นมาให้อยู่แล้ว รวมไปถึงเวลาเปิดกาชาเกมนี้ก็มีโอกาสเปิดได้ฮีโร่ซ้ำเช่นกัน แต่มันก็จะกลายเป็นเศษชิ้นส่วนของฮีโร่ตัวนั้นครับ ซึ่งมันสามารถนำไปอัพเกรดฮีโร่ตัวนั้นๆ ให้มีความสามารถที่เพิ่มขึ้นได้ด้วยระบบที่ชื่อว่า กระตุ้น หรือ Awakening นั่นเอง สำหรับระบบนี้จะทำให้ฮีโร่ของเรามีค่าสถานะ ATK และ HP ที่เพิ่มขึ้นแบบเห็นได้ชัดเจน และเป็นวิธีการเดียวที่จะทำให้ตัวฮีโร่ของเราเก่งขึ้น ในการพัฒนาแต่ละระดับจะมีการใช้จำนวนชิ้นส่วนฮีโร่ที่มกาขึ้น รวมไปถึงค่าพลังที่เพิ่มมากขึ้น กรอบสีของตัวละครก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน แปลว่าถ้าหากเราเปิดกล่องสุ่มกาชามาแล้วได้ตัวซ้ำก็ไม่ต้องเสียใจไปครับ มันแปลว่าฮีโร่ตัวนั้นจะมีความเก่งเพิ่มขึ้นนั่นเอง
DIY แฟชั่นไม่ซ้ำ ไม่เหลื่อมล้ำทางความเก่ง
สำหรับสายแฟชั่นของเกมนี้ก็ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะว่าฮีโร่ทุกตัวนั้นจะมีระบบที่เรียกว่า DIY หรือถ้าให้เรียกแบบง่ายตามภาษาคนเล่นเกมก็คือระบบแฟชั่นนั่นเองครับ โดยแฟชั่นภายในเกมนี้จะมีแยกด้วยกัน 4 ระดับก็คือ สีเขียว สีฟ้า สีม่วง แล้วก็สีทอง ซึ่งแต่ละระดับนั้นเป็นการบอกแค่เรื่องของความหายากของแฟชั่นชิ้นนั้นๆ ไม่ได้มีผลกับการเพิ่มความเก่งหรือค่าสถานะตัวละครแต่อย่างใด จะมีก็แค่สีทองที่จะทำให้เอฟเฟคต์ของตัวละครดูสวยงามมากขึ้นแค่นั้นเองครับ ที่สำคัญแฟชั่นเกมนี้ไม่ได้แค่สวมใส่เป็นเซ็ท แต่มันยังสามารถแต่งแยกกันได้ทั้งหมด 4 ส่วนก็คือ ส่วนหัว เสื้อผ้า อาวุธ แล้วก็ Force นั่นเอง เราสามารถซื้อแต่ละส่วนมา Mix & Match กันได้ตามใจชอบ บางคนอาจจะชอบส่วนหัวจากชุดนี้ ส่วนเสื้อจากอีกชุดก็เอามาประกอบรวมกันได้ ส่วนพาร์ทที่เรียกว่า Force นั้น ถ้าให้เรียกง่ายๆ ก็คงจะเป็นแฟชั่นในส่วน ออร่า ของตัวละครครับ เป็นพวกแสง หรือเอฟเฟคต์ต่างๆ รอบตัวละครเพื่อเพิ่มความอลังการงานสร้างให้กับตัวละครเรานั่นเอง
เกียรติยศมีไว้โชว์
อีกระบบหนึ่งที่จะหยิบมาพูดซักเล็กน้อยก็คือ เกียรติยศ หรือ Honor ครับ คิดง่ายๆ ว่ามันคือ Achievement หรือเควสต์ต่างๆ ที่มีให้ทำภายในเกม อย่างเช่นการเอาชนะในโหมดต่างๆ ภายในเกมให้ครบจำนวนเท่านี้ครั้ง เล่นฮีโร่สายนี้ให้ครบเท่านั้นครั้ง เมื่อทำสำเร็จก็จะสามารถกดรับรางวัลได้ โดยรางวัลจะเป็นเหรียญตราในประเภทต่างๆ ที่แบ่งออกเป็น การต่อสู้ ฮีโร่ และอื่นๆ ซึ่งเราสามารถเซทเหรียญเหล่านี้ไว้โชว์หน้า Profile ได้ด้วยกัน 5 เหรียญ เหมือนเป็นการบ่งบอกความเก่งกาจของเราได้ประมาณนึง หรือจะทำอันยากๆ แล้วโชว์เอาไว้ขิงก็ได้เช่นกันครับ
นอกจากนี้ก็ยังมีระบบต่างๆ อย่างเช่นระบบกิลด์ที่เอาไว้รวมคนติดต่อสื่อสารกันมากมาย ระบบการเก็บแต้มต่างๆ อย่างพวก Active Reward หรือ Season Glory ที่เอาไว้แลกของรางวัลสุดพิเศษ รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ มากมายภายในเกม FoG ที่ประเคนต้อนรับในช่วงเปิดเกมได้ดี อ้อ! และที่เราเล่นอยู่ที่คือเซิร์ฟเวอร์ SEA แน่นอนว่าเจอผู้เล่นในประเทศเพื่อนบ้านด้วยนะเอ้อ ตอนนี้ FoG Pixel Moba 3v3 สุดมันส์ก็ได้เปิดให้บริการแล้ว ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปโหลดมาเล่นได้ตามลิ้งค์ด้านล่างเลยจ้า
