บทใหม่แห่งตำนานแฟนตาซีครั้งสุดท้าย Final Fantasy XIV Online จุดเริ่มต้นแห่งการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่

        สวัสดีครับเพื่อนๆชาว OS ทุกท่าน วันนี้ผมก็มีบทความรีวิวดีๆของสุดยอดเกม RPG ตลอดกาลที่ก้าวเข้ามาสู่ความเป็น MMORPG อีกครั้งในภาคนี้กับเกม  Final Fantasy XIV Online นั่นเอง และแน่นอนเจ้าของบทความนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล Princess Granet หรือหนูนัท เจ้าเก่า เจ้าเดิมนั่นเองจ้า ใครที่อยากรู้ว่า Final Fantasy XIV Online จะยิ่งใหญ่ และอลังการสมชื่อและการรอคอยหรือไม่ บัดนี้เชิญก้าวเข้าสู่โลกแฟนตาซีครั้งสุดท้าย ณ บัดนี้

         สวัสดีค๊า! กลับมาเจอกับหนูนัทกันอีกแล้วนะคะ หลังจากหายหน้าหายตาไปจากการเขียนรีวิวเกมซะนาน คิดถึงกันบ้างหรือเปล่าคะ แหะๆ สำหรับวันนี้นัทเองก็ได้นำเกมออนไลน์ระดับเทพมารีวิว ให้ เพื่อนๆได้อ่านกันอีกแล้วค่ะ โดยเกมนี้ถือได้ว่าเป็นเกมออนไลน์ที่ถูกจับตามอง มากที่สุดในครึ่งปี 2010 เลยก็ว่าได้ค่ะ นั้นก็คือ “Final Fantasy XIV”  ซึ่งได้เปิด Close Beta Test ไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้มีเพื่อนๆคนไทยบางกลุ่มโชคดีได้เข้าไป ร่วมทดสอบในครั้งนี้ด้วย แน่นอนว่าตัวนัทเองก็ได้เข้าไปทดสอบและสัมผัสมาด้วยเ ช่นกันถือว่าโชคดีมากๆ เลยทีเดียวค่ะ

        โดยการทดสอบ Close Beta Test ในครั้งนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปจากช่วง Close Alpha Test มากพอสมควรค่ะ ซึ่งก็มีการอัพเดตและแก้ไขความสมดุล ของเกมให้ดูน่าเล่นยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของร ะบบเกมเพลย์ที่จากเดิม ยังช้าๆอยู่ และดูไม่ค่อยจะทันใจวัยรุ่นซักเท่าไหร่ แต่ในรอบนี้ก็ได้มีการอัพเดตทำให้ดูรวดเร็วและลื่นไห ลมากขึ้น หรือจะเป็นทั้งในเรื่องกราฟฟิคที่ทางทีมงาน Square-Enix ได้พัฒนาให้ดูละเอียดและสมจริงมากกว่าในช่วงทดสอบครั้งก่อนด้วยค่ะ โดยวันนี้นัทจะมาพูดถึงรายละเอียดทั้งหมดที่เปลี่ยนแ ปลงไปจากเดิมและมาเล่า สู่กันฟังว่าภายในเกมมีระบบอะไรที่น่าสนใจให้พวกเราไ ด้สัมผัสกันบ้างค่ะ ถ้าเพื่อนๆที่เป็นสาวก Final Fantasy ไม่ว่าจะภาคใดก็ตามก็ไม่ควรพลาดกับข้อมูลที่จะนำเสนอ ให้ เพื่อนๆได้อ่านกันในวันนี้ค่ะ

การสร้าง ตัวละครช่วงเริ่มต้นของเกม

         ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่ดินแดน Eorzea เลยก็ว่าได้ค่ะ หลังจากที่ล็อกอินไอดีเรียบร้อยเพื่อนๆจำ เป็นต้องสร้างตัวละครของตัวเอง 1 ตัวค่ะ โดยในช่วงทดสอบที่ผ่านมาเราสามารถสร้างตัวละครได้สูงสุดที่ 3 ตัว ( *ถ้าเป็นในช่วงเปิดบริการเต็มรูปแบบการสร้างตัวเพิ่มจำเป็นต้องเสียค่าบริการเพิ่มทุกๆเดือน ) เมื่อกดสร้างแล้วระบบจะให้เราเลือกเผ่าที่ต้องการจะเล่น 1 เผ่า โดยมีชนเผ่าทั้งหมดด้วยกัน 5 เผ่า ได้แก่ Hyur , Miqo’te , Lalafell , Elezen , Roegadyn แต่ละชนเผ่านั้นจะมีการแบ่งเพศเอาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งบางเผ่านั้นก็ไม่ได้มีเพศฝั่งตรงข้าม เช่น เผ่า Miqo’te จะไม่มีเพศชายให้เราเลือกเล่น ( น่าเสียดายถ้ามีให้เลือกจะได้เห็นตัวละครผู้ชายมีหาง น่ารักๆคล้ายๆ Zidane ในภาค IX เพียงแต่ไม่มีหู ) เป็นต้นค่ะ

        เมื่อเลือกเผ่าและเพศที่ต้องการจะเล่นแล้ว ระบบจะให้เราปรับแต่งตัวละครค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง,ทรงผม,น้ำเสียงตัวละคร หรือแม้กระทั่งปรับแต่งใบหน้าก็มีเช่นกัน แต่ก็น่าเสียดายนะคะที่ไม่มีให้ปรับขนาดหน้าอกตัวละค รของเพศหญิงไว้ด้วย จึงทำให้บางคนแถวนี้ถึงกับร้องไห้กระซิกๆกันเลยทีเดียว เมื่อสร้างตัวละครปรับแต่งอะไรเสร็จเรียบร้อย ถึงเวลาที่จำเป็นต้องเลือกสมาคมสายอาชีพของตัวเองค่ะ ระบบจะให้เราเลือกสมาคมอาชีพทั้งหมด 4 สมาคมได้แห่ง Disciples Of War ( นักรบ ), Disciples Of Magic ( นักเวทย์ ), Disciples Of The Land ( ผู้เก็บเกี่ยว ), Disciples Of The Hand ( ผู้สร้าง ) นั่นหมายความว่า ในช่วงแรกของเกมเราจำเป็นต้องเลือกสายใดสายหนึ่งเป็นอาชีพหลักของตัวละคร แล้วหลังจากนั้นเมื่อเราดำเนินเนื้อเรื่องภายในเกมแล้ว ก็จะสามารถเปลี่ยน Class ได้อย่างอิสระภายหลังค่ะ

         ระบบการต่อสู้ในภาคนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมพอสมควร เพราะจากข้อมูลที่ได้มาได้บอกว่า Close Alpha Test ในรอบที่ก่อนหน้านี้ระบบการต่อสู้ช้าถึงช้ามาก จนทำให้ทีมงานได้มีการอัพเดตและพัฒนาระบบต่อสู้ให้รวดเร็วและลื่นไหลมากขึ้นค่ะ แต่ก่อนที่เราจะสู้นั้นเราจะอยู่ในโหมดสันติ ซึ่งจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นโหมดต่อสู้ก่อนถึงจะโจมตีมอนสเตอร์ตัวนั้นๆได้ค่ะ แต่ถ้าตัวละครอยู่ในโหมดต่อสู้จะไม่สามารถฟื้นฟูค่าพ ลัง HP และ MP ได้จำเป็นต้องกลับเข้าสู่โหมดสันติก่อน สำหรับระบบการต่อสู้ในภาคนี้หลังจากที่เราเข้าโหมดต่อสู้ จะมีเกจอยู่ 2 อย่างที่จำเป็นต้องใช้ในการต่อสู้ทุกๆครั้ง นั้นก็คือ TP และ Stamina โดยหน้าที่ทั้งสองหลอดจะแตกต่างกันค่ะ รายละเอียดมีดังต่อไปนี้

        TP สำหรับค่า TP ที่มีอยู่ภายในเกม Final Fantasy XIV จะแตกต่างจากภาค XI อยู่พอสมควรค่ะ เพราะว่าในภาคเดิมค่า TP จะนำมาใช้เฉพาะกับท่าโจมตีของอาวุธเท่านั้น หรือที่เรียกกันว่า “ Weapon Skill ” แต่ว่าในภาค XIV ได้เปลี่ยนความสามารถไปนิดหน่อยค่ะ คือ จะมี Skill บางท่าที่จำเป็นต้องใช้ค่า TP เพื่อให้ Skill สามารถทำงานได้ โดยแต่ละสกิลจะกินค่า TP ไม่เท่ากัน ดังนั้นต้องคำนวณการใช้สกิลที่กำหนดค่า TP ด้วยค่ะ เพื่อไม่ให้สะดุดเวลาเล่นในรูปแบบปาร์ตี้นั้นเอง

        ซึ่งเราจะเห็นว่าค่าสถานะตัวละคร มีทั้งหมด 2 ฝั่ง คือค่าสถานะตัวละคร และ ค่าพลังป้องกันธาตุต่างๆ การที่เราจะสามารถอัพค่าพลังต่างๆได้นั้น จำเป็นต้องให้เลเวลตัวละครของเราเพิ่มก่อน ซึ่งเมื่อเลเวลตัวละครเพิ่มแล้วเราจะได้แต้มมา 4 Point ทั้งค่าสถานะตัวละคร และ ค่าพลังป้องกันธาตุ ก็มีผู้เล่นหลายคนสงสัยว่าถ้าเปลี่ยนอาชีพหรือ Class แล้วสามารถรี ค่าสถานะตัวละคร ได้ไหม คำตอบคือ สามารถรีไปมาได้เรื่อยๆ แต่อาจจะต้องรอเวลาซักระยะจึงจะสามารถรี Status ให้เข้ากับสาย หรือมอนสเตอร์ที่เรากำลังจะไปต่อกรด้วยได้ค่ะ

        ระบบต่อมาที่เรียกว่าเป็นระบบที่ขาดไม่ได้ และเป็นระบบที่ในภาค XI นิยมใช้กันนั้นก็คือระบบ Auto-Translation และ Macro หลายคนคงสงสัยว่าทั้งสองระบบมันแตกต่างและใช้งานยังไง จากที่ได้สอบถามผู้ที่เล่นในภาค XI มาก่อนเขาบอกว่า ระบบ Auto-Translation คือระบบที่เอาไว้ช่วยแปลภาษาภายในเกมเวลาพูดคุยค่ะ โดยเกม Final Fantasy XIV จะเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่รวมโซนเอาไว้ด้วยกันได้แก่ โซนญี่ปุ่น,โซนอเมริกาเหนือ,โซนยุโรป เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าการพูดคุยจะเป็นคนละภาษาแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น นัทลงเกมโดยติดตั้งเกมเป็นรูปแบบภาษาอังกฤษ ( โซน US ) เมื่อเข้าสู่เกมแล้วพบผู้เล่นชาวญี่ปุ่นพิมพ์มาเป็นภาษาญี่ปุ่น เราสามารถแปลคำศัพท์ของอีกฝ่ายได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะแปลได้หมดทุกคำนะคะ ซึ่งจะเป็นคำที่ทาง Square-Enix คิดว่าเป็นประโยคที่ใช้กันบ่อยๆภายในเกม จึงทำให้ระบบนี้เกิดขึ้นใน Final Fantasy ค่ะ

        ต่อมาก็คือระบบ Macro หลายคนคงรู้จักกับระบบนี้นะคะ โดยระบบนี้มีหน้าที่ในการจัดปุ่มคีย์ลัด จากเดิมที่เราจะกดเรียงทีละสกิลๆ แต่ Macro จะทำให้กดแค่เพียง 1 ปุ่มก็สามารถโจมตีได้หลากหลายสกิลในครั้งเดียวค่ะ เพียงแต่ว่าเราต้องมีการกำหนดระยะดีเลย์สกิล ช่วงเวลาสกิลต่างๆ เพื่อจะได้จัดเรียงสกิลที่ต้องการได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ระบบนี้จำเป็นต้องเรียนรู้ซักหน่อย ก็จะเข้าใจได้ไม่ยากเย็นค่ะ

        มาถึงระบบสุดท้ายที่เราจะพูดคุยในรีวิวนี้กันแล้วค่ะ นั่นคือระบบ Armory System หรือระบบยืม Skill ค่ะ เมื่อเลเวลอาชีพและเลเวลตัวละครของเราสูงในระดับหนึ่งแล้ว เราสามารถที่จะเปลี่ยนอาชีพไปเล่นอาชีพอื่นได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเล่นอาชีพ Pugilist ไปซักเลเวล 6 จนสามารถได้สกิล Chakra ( เพิ่มเลือดให้กับตัวเอง ) มาใช้แล้ว ให้เปลี่ยนอาชีพมาเป็น Gladitor หลังจากนั้นเราก็จะสามาถนำสกิล Chakra ไปใช้ให้กับอาชีพ Gladitor ได้ แล้วหลังจากนั้นเราจะกลายเป็นสาย Tank ที่สามารถถือโล่ห์พร้อมกับสามารถ Heal ตัวเองได้ด้วยสกิล Chakra เช่นเดียวกับฝั่ง Mage ถ้าเล่นสาย Conjurer จนเลเวลอาชีพ 6 ก็จะมีสกิล Cure ( เพิ่มเลือดให้กับตัวเองและผู้อื่น ) แล้วเปลี่ยนอาชีพมาเป็น Thaumaturge ก็จะกลายเป็น White Mage หรือนักเวทย์ขาวได้อย่างเต็มตัว เพราะอาชีพสายนี้มีสกิล Regen ด้วยนั้นเองค่ะ

 

 

 ขอขอบคุณนัท Princess Garnet อีกครั้งที่เอื้อเฟื้อบทความรีวิวนี้ด้วยจ้า

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้