หลังจากที่ทดสอบ Bull ไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงเจ้าลูกพี่ลูกน้องที่มีชื่อว่า Monkey ตัวนี้ซะที ซึ่งแม้ดูผ่านๆ ทั้ง 2 กระบอกนี้แทบจะไม่มีความแตกต่างกันเลย แต่จริงๆแล้วปืนทั้งสองมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาพิสูจน์สิ่งนั้นกันครับ
1.คุณสมบัติของปืน
Codename : Monkey G2
Class : Sub-Machine Gun
Bullet : 50/200
การลั่นกระสุน : เร็ว
จากคุณสมบัติ จะเห็นว่าปืนกระบอกนี้มีกระสุนถึง 50 นัดต่อแม๊กกาซีน ซึ่งมากกว่าเจ้า Bull เสียอีก และความเร็วในการลั่นกระสุนก็ไม่ได้ต่างกับเจ้า Bull เลย ชักลังเลแล้วใช่ไหมครับ แต่ใจเย็นไว้ก่อน ลองไปดูผลการทดสอบการยิงแล้วค่อยตัดสินใจเลือกก็ยังไม่สายครับ
2. การทดสอบวิถีกระสุน
2.1 การทดสอบวิถีกระสุนในระยะใกล้
อัดกันเป็นปลากระป๋องเลยครับ หากสังเกตจากเป้าจะพบว่ากระสุนดีดขึ้นไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น น้อยกว่าเจ้า Bull เสียอีก แบบนี้ในระยะประชิดใครเจอก็มีร้องครับ
2.2 การทดสอบวิถีกระสุนในระยะกลาง
แม้จะออกมาอยู่ในระยะกลาง เจ้าจ๋อกระบอกนี้ก็ยังทำได้ดีครับ ยังคงรักใคร่เบียดตัวกันแน่นเช่นเดิม ในระยะนี้ก็ยังยิงกราดได้อย่างสบายใจครับ
2.3 การทดสอบวิถีกระสุนในระยะไกล
แม้ระยะที่ไกลจะทำให้งอแงไปบ้าง แต่หากเทียบกับ Bull แล้ว เจ้านี่ก็ดูเชื่องขึ้นมาถนัดตาเลยครับ กระสุนยังคงอัดแน่นและกระจายตัวในระดับที่ไม่สูงมาก เรียกได้ว่าไว้ใจได้ทุกระยะจริง
2.4 การทดสอบวิถีกระสุนในการยิงทีละนัด
ถึงแม้จะนิ่ง แต่ก็ยังคงมีอาการส่ายของกระสุนอยู่บ้างครับ ดังนั้นการเล็งยิงให้เข้าหัวคงจะหวังได้ยากอยู่นิดนึง สำหรับปืนกระบอกนี้
สรุป สำหรับ Sub-machine Gun Monkey G2 นั้น ถึง นอกจากจะมีข้อได้เปรียบที่มีจำนวนกระสุนถึง 50 นัด แล้ว ยังมีความแม่นยำที่สูงกว่าเจ้า Bull อยู่โขเลยครับ ไม่ว่าจะอยู่ในระยะใด หากได้กราดกระสุนขึ้นมาแล้วละก็ ไม่ตายก็คางเหลืองครับ
เกินตัวจริงๆครับ กับเจ้า Sub-machine Gun Monkey เห็นชื่อติ๋มๆแบบนี้ น่ากลัวพอตัวทีเดียว สำหรับคราวหน้าจะเป็นคิวของเจ้าปืนข้าวโพดแล้วละครับ แอบบอกนิดนึงว่าเห็นหน้าตาตลกแบบนั้น น่ากลัวพอตัวเลยเชียวละ ส่วนจะน่ากลัวยังไงนั้นไว้พิสูจน์กันครั้งหน้าครับ