ดราม่านี้เกิดขึ้นที่ประเทศไต้หวันครับ โดยเป็นเรื่องราวของสาวคนหนึ่งนามว่า หลินเสี่ยวเฝิน ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ 11 ปีก่อนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และทำให้ลิ่มเลือดในร่างกายของเธอไม่อยู่ในภาวะปกติ แต่แล้วเสี่ยวเฝินก็ได้รับการบริจาคเลือดจากผู้ใจบุญจำนวน 10 ถุง พร้อมด้วยเกล็ดเลือดอีก 2 ถุง ทำให้เธอสามารถรอดชีวิตมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ จากนั้นในอีก 7 ปีต่อมา เสี่ยวเฝินก็ได้มีโอกาสเดินทางกลับมายังเมืองซินจู ทางตอนเหนือของไต้หวัน เพื่อมาดูแลกิจการของครอบครัวเธอเอง และนั่นก็ทำให้เสี่ยวเฝินได้พบกับเหลียนซีเฉิง นักธุรกิจที่ทำกิจการขายข้าวเหนียว กระทั่งได้คบหาดูใจ จนกลายเป็นสามีภรรยากันในที่สุด
และแล้ววันหนึ่งทั้งเสี่ยวเฝินและซีเฉิงก็ได้มานั่งพูดคุยกันถึงประสบการณ์เฉียดตายที่ต่างคนเคยประสบกันมา เสี่ยวเฝินก็เลยเล่าว่าเธอเคยได้รับการบริจาคเลือดเมื่อ 11 ปีก่อนจากอุบัติเหตุ ซีเฉิงได้ยินเข้าก็เลยพูดติดตลกกลับไปว่า “นั่นจะใช่เลือดของผมรึเปล่านะ?” เสี่ยวเฝินจึงไปขอข้อมูลประวัติการรักษาย้อนหลังของตัวเองกับทางโรงพยาบาล และก็พบความจริงว่าผู้บริจาคเลือดให้เธอก็คือซีเฉิงนั่นเอง
ทั้งนี้ ซีเฉิงนั้นเป็นผู้ที่ทำการบริจาคเลือดอยู่เป็นประจำมาตั้งแต่อายุ 20 ปี เพราะเขามีความเชื่อส่วนตัวอยู่ลึกๆ ว่าเลือดของเขานั้นจะสามารถช่วยชีวิตว่าที่ภรรยาในอนาคตของเขาได้ และก็ดันเป็นความจริงซะด้วย ก็ต้องขอยินดีกับความรักของทั้งคู่ด้วยนะครับ
อนึ่ง หลังจากที่เรื่องราวของเสี่ยวเฝินกับซีเฉิงได้ถูกเผยแพร่ออกสื่อและโลกโซเชียล ก็มีชาวเน็ตแสดงความเห็นกันมากมาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการยินดีกับทั้งสอง ในขณะที่มีชาวเน็ตบางคนได้ยกทฤษฎีสมคบคิดว่านี่อาจนำไปทำเป็นพล็อตของหนังฮอลลีวู้ดได้เลย ถ้าบทสรุปจบด้วยการหักมุมว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นแผนที่ฝ่ายชายแอบสะกดรอยฝ่ายหญิงมาตั้งแต่ต้น และฝ่ายชายเป็นผู้วางแผนในการจัดฉากอุบัติเหตุเมื่อ 11 ปีก่อน เพื่อที่ตนเองจะได้บริจาคเลือดให้ฝ่ายหญิง ให้เลือดของตนเองได้เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเธอ และสร้างสถานการณ์ให้ตัวเองได้พบกับเธอโดยบังเอิญและแต่งงานกันในที่สุด
เครดิต: 9GAG
