อเมริกาเตรียมขึ้นภาษีเกมที่มีเนื้อหารุนแรง หวังช่วยลดการก่อคดียิงในโรงเรียน

ทุกวันนี้เราคงพบเห็นกันบ่อยนะครับกับข่าวที่วิดีโอเกมถูกนำไปกล่าวโทษว่าเป็นรากเหง้าของปัญหาการใช้ความรุนแรงหรือคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญอยู่หลายเคส ด้วยชุดความคิดของคนบางกลุ่มที่มองว่าความรุนแรงที่นำเสนอออกมาจากวิดีโอเกมจะทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบถ่ายทอดสู่ผู้เล่นได้

   ล่าสุด ทางทีมร่างกฎหมายในรัฐเพนซิลเวเนียของสหรัฐอเมริกาก็ดูจะผลักดันชุดความคิดดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรมครับ ด้วยการเตรียมปรับเพิ่มภาษี 10% กับวิดีโอเกมที่มีเนื้อหารุนแรง เพื่อหวังว่านโยบายนี้จะช่วยลดโอกาสการก่อคดีกราดยิงในโรงเรียนไปได้บ้างนั่นเอง อนึ่ง รายได้จากการขึ้นภาษีในครั้งนี้จะถูกนำไปเป็นเงินทุนในการพัฒนาด้านความปลอดภัยของแต่ละโรงเรียนให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งทุกเกมที่ได้เรต M หรือเกมที่มีเนื้อหาเหมาะกับผู้เล่นอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปีขึ้นไปจะมีการปรับราคาขึ้นประมาณ 5 – 10 เหรียญสหรัฐฯ (ราวๆ 155 – 310 บาท)

   สำหรับประเด็นที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กันก็คือ ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานอะไรที่สามารถบ่งชี้ได้แน่ชัดเลยว่าวิดีโอเกมหรือสื่อบันเทิงจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการก่อเหตุฆาตกรรมหมู่หรือนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในกลุ่มเยาวชนแต่อย่างใด ทำเอา คอรี่ บาร์ล็อก ผู้กำกับของเกม God of War ต้องออกมาโวยเป็นการใหญ่ว่านี่ช่างเป็นการสรรหาวิธีมาเชื่อมโยงเกมกับความรุนแรงได้แบบไม่ชอบมาพากลจริงๆ

   อย่างไรก็ตาม นอกจากเกมเมอร์ในเพนซิลเวเนียจะไม่เห็นด้วยแล้ว ในโลกอินเตอร์เน็ตก็กำลังมีการเคลื่อนไหวเพื่อกดดันผู้มีอำนาจในรัฐเพนซิลเวเนียด้วยเช่นกัน คงต้องมาลุ้นกันต่อไปครับว่าร่างกฎหมายนี้จะผ่านความเห็นชอบในสภาได้หรือไม่กันแน่