ซอกหลืบ: โดนแบน!!! เซ็นเซอร์หนังเพื่อใครกันแน่

โดนแบน!!! เซ็นเซอร์หนังเพื่อใครกันแน่

ปันยา : พบกับข่าวเด่นประเด็นหลืบในสัปดาห์นี้อีกแล้วนะครับ กับเรื่องในแวดวงจอเงินครับ นั่นก็คือวงการภาพยนตร์นั่นเอง ซึ่งเป็นปัญหาเรื่อรังคาราคาซังมานานกับการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ เรื่องราวจะเข้มข้นขนาดไหน วันนี้เรามีแขกรับเชิญสองท่านครับ ท่านแรกเป็นผู้กำกับชื่อดัง คุณตรรกะ ปิ่นแห้วครับ ท่านที่สองเป็นประธานคณะกรรมการกองเซ็นเซอร์ คุณปีชวด กันสิยะคร้าบบบ

ปันยา : ล่าสุดนี่มีข่าวของการแบนหนังหลายเรื่องเลย หรือไม่ก็ให้ถอดบางฉากออก แต่ละท่านมีความเห็นเช่นไรครับ
ตรรกะ : ผมว่าในความเป็นหนังเนี่ย อารมณ์ต่อเนื่องมันสำคัญนะ เหมือนกินขนมจีนเนี่ยเวลาตักขึ้นมามันต้องได้ทั้งผักทั้งเส้นทั้งน้ำ เกินเส้นมันลื่นสะบัดหนีจากช้อนไป ได้กินแต่ผัก เป็นคุณ คุณเสียอารมณ์มั้ย
ปันยา : เสียค่าซักเสื้อด้วยครับ มันสะบัดแดงเถือกเลย ว่าแต่เกี่ยวอะไรกันครับน่ะ
ตรรกะ : อ้าว หนังก็เหมือนกันไง ฉากบางฉากเนี่ยมันเป็นปมใหญ่ในเรื่องเลย ถ้าตัดออกไป หนังไม่รู้เรื่อง หนังไม่ต่อเนื่อง ด้วนๆ ไป โผล่ไปอีกซีนเอาหน้าด้าน ๆ เป็นคุณ คุณเสียอารมณ์มั้ย


ปันยา : ก็จริงครับ แล้วในความเห็นของกองเซ็นเซอร์อย่างท่านพันเอกซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปวัฒนธรรม มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ แล้วมีเหตุผลอย่างไรในการตัดบางฉาก หรือแบนบางเรื่อง
ปีชวด : เหตุผลของกองเซ็นเซอร์เราดูที่ความเหมาะสมเป็นหลักครับ ทั้งประเพณีวัฒนธรรม ที่สำคัญแก่นสารของหนังด้วย หากหนังไร้สาระจับประเด็นใจความได้น้อยว่าจะสื่ออะไร ก็ไม่ควรให้ผ่าน บางเรื่องฆ่ากันมันทั้งเรื่องแบบนี้ ไม่น่าให้ฉายได้ เด็กไปดูจะซึมซับความรุนแรง
ตรรกะ : อคตูดไปแล้ว !!
ปันยา : อคติ !!!
ตรรกะ : นั่นแหละ โอ้โห ไม่น่าเชื่อเลยว่าระดับนี้ จะใช้ความเห็นส่วนตัวในการตัดสินหนัง ฆ่ากันทั้งเรื่องแล้วไง ก็ถ้าหนังสงครามจะให้มาเล่นม้าก้านกล้วยตี่จับกันรึไง จะได้ส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมน่ะ ดูอะไรให้มันกว้าง ๆ หน่อยสิครับ แล้วเด็กดูจะซึมซับความรุนแรง แล้วจะมีเรตหนังไว้บังเงาหัวทำไมครับ เรื่องไหนที่มันดิบมันแรง ก็จัดเรตไปเด้ว์~


ปีชวด : กฎหมายด้านการจำกัดเรตภาพยนตร์ยังไม่บังคับใช้เลย ตอนนี้เค้าให้ใช้ระบบเซ็นเซอร์ไปก่อน
ตรรกะ : แล้วไงอ่ะ หลักการของการเซ็นเซอร์ประเทศไหนก็ช่าง คือการควบคุมหนัง ไม่ให้มีเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย ศีลธรรม หรือขัดต่อความมั่นคงของประเทศนั้นๆ ไม่เกี่ยวสาระ เพราะหนังมันก็มีสาระในตัวของมันเอง แล้วแต่คน ว่าจะมองอย่างไร เพราะคนเป็นล้านทั่วประเทศก็เค้าต้องมีความคิดที่แตกต่างกันอยู่แล้ว ไม่ต้องให้ใครมาคิดแทนหรอกว่อย
ปันยา : มันก็จริงนะครับ แต่ลดอารมณ็หน่อยดีกว่า ท่าทางจะเดือดมากนะเนี่ย
ตรรกกะ : เดือดแล้วก็ปิดแก๊สตักใส่ชามเลยเด้ จะบ้าเหรอ อารมณ์ผมไม่ใช่มาม่านะ!!
ปันยา : ชงเองเล่นเองตบเองเจ็บเองเลยนะเนี่ย ไม่ใช้แสตนอินด้วย

ปีชวด : ถึงไม่มองแก่นสาร ก็มีหนังที่ขัดกฎหมาย และศีลธรรมอยู่ดี กรรมการมีหน้าที่การงาน และประสบการณ์ การเผยแพร่สื่อบันเทิงทั่วประเทศ ต้องความละเอียด ไม่ใช่ให้ผ่านเรื่อยเปื่อย
ตรรกะ : เรื่อยเปื่อย!! เล็กเปื่อยลูกชิ้นไม่งอกอะเด้วว์ หน้าที่การงานไม่ได้บอกระดับความคิดนะครับ การทำงานที่ผ่านมามันวัดได้อยู่แล้ว ว่าพวกคุณใช้ต่อมอะไรในการคัดหนัง
ปันยา : อย่าใช้อารมณ์สิครับ เข้าใจนะครับว่าคนทำหนังแล้วมาถูกห้ามโน่นห้ามนี่ มันก็ขัดใจเป็นธรรมดา แต่เราก็ต้องเข้าใจนะครับว่าบ้านเรามันเป็นเมืองพุทธ
ตรรกะ : เมืองพุทธไม่ใช่ประเด็นเลยครับคุณปันยา มันไม่เกี่ยวกับความบันเทิงครับ แล้วนี่พอหนังไม่ผ่าน แต่อยากให้ฉาย ก็ต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาลอุทธรณ์กันไป เพื่อให้หนังฉาย ผู้กำกับ หรือทนายครับ ต้องไปฟ้องร้องขอให้หนังได้ฉายในบ้านตัวเองเนี่ย

ปีชวด : มันก็เป็นเรื่องของกฎหมาย ขอบอกผ่านรายการไว้เลยนะ ว่าค่ายหนัง อย่าซื้อหนังโหดๆ ดิบๆ ขัดศีลธรรมมาฉายให้เสียเวลา เพราะโดนแบนแน่นอน
ตรรกะ : แบน!! แบนฟอร์เมน หรือแบรนด์ซุปไก่อะเด้ววววว์ กินเยอะ ๆ ผสมเปปทีนด้วย จะได้มองอะไรให้มันกว้างขวางฉลาด ๆ
ปันยา : ผมว่าพี่กินยาทัมใจก่อนเถอะครับ โมโหรั่วมากครับ

ปีชวด : จากที่ผ่านมานะ ก็มีเจ้าของหนังหลายเรื่องส่งหนังมาให้กรรมการให้จัดเรต ส่งหนังที่ไม่ควรส่งเสริมมาให้ตรวจเกลื่อนไปหมด ก็โดนห้ามฉายกันไปเรียบร้อย แถมบางเรื่องไปบ้าทุ่มโฆษณาซะใหญ่โต พอหนังไม่ผ่านก็กินแห้วโวยวายกันใหญ่ เพราะให้ความสำคัญกับการตรวจน้อย บางเรื่องคุณเชื่อมั้ย ส่งตรวจเช้า เพื่อให้เข้าฉายเย็นน่ะ
ปันยา : เป็นแบบนี้ก็ลำบากใจเหมือนกันนะครับ ที่ทำงานตรงนี้
ปีชวด : ลำบากใจสิครับ ถ้าเป็นพวกหนังหลอนผีหลอกก็พอจะให้ผ่านได้ แต่ถ้าเป็นพวกฆาตกรรม หรือเกมอันตรายที่เอาไปเลียนแบบได้ ก็ไม่อยากให้ผ่าน หรืออย่างเรื่องส้มตำไส้ติ่ง ก็โดนให้เปลี่ยนชื่อไปเป็นแช่งก่อนชิว หรืออะไรนี่แหละ ไม่รู้ประชดกรรมการหรือเปล่า
ปันยา : รู้สึกจะเป็นเรื่องก๋วยเตี๋ยวเนื้อคนที่เปลี่ยนเป็นเชือดก่อนชิมนะครับ…..ว่าแต่ผู้กำกับเงียบไป… อ้าว!! ตรรกกะ กินมาม่าออกรายการเลยเห้ยยย
ตรรกะ : งั่บ ๆ เครียดมากก็หิวเป็นธรรมดา กินที่ไหนก็หายหิวเหมือนกันนั่นแหละ ซร้วบบบ แฮร่ …เอิ๊ก (เรอ)

ปันยา : …..ทุเรศซากอ้อยจริง ๆ …แล้วคิดว่าข้อขัดแย้งระหว่างค่ายหนัง คนทำหนัง และคนคัดหนังนี่จะมีจุดร่วมที่ลงรอยอย่างไรครับ
ตรรกะ : ผมว่าเรื่องนี้คงสร้างความไม่พอใจอีกยาว พูดหน้าจอมันก็ดูดีทั้งนั้น ใครจะจริงใจกินมาม่าโชว์ได้แบบผม ถึงเวลาคัดหนังเค้าก็ใช้อคติอยู่ดีล่ะ ขี้เกียจเถียงล่ะ พออิ่มแล้วง่วง สมองไม่แล่น นอนดีกว่า คร่อกกกก
ปีชวด : จริงใจจริง….ส่วนตัวผมก็ต้องทนทนกันต่อไป เรื่องไหนไม่ผ่านก็ไปฟ้องกันเอาเองละกัน ยิ่งผู้กำกับหน้าใหม่ๆ เข้ามา ทำหนังบ้าเลือดเชือดคอ ทำหนังเล่นเครื่องในไส้ปลิ้นทิ่มตาจกตับออกมา หนังไม่มีข้อคิดไม่ได้แกนเรื่องอะไรเลย อยากขายเลือดอย่างเดียว ผมว่าอย่าเอามาให้ตรวจให้เมื่อยง่ามนิ้ว ไม่ผ่านหรอกครับ เก็บไว้บริจาคกาชาดดีกว่า

ปันยา : ครับ แล้วปัญหาในขณะนี้ก็ยังไม่มีบทสรุปที่แน่ชัดครับ ก็คงอยู่ที่วิจารณญาณของผู้ชมภาพยนตร์แล้วล่ะครับ ว่าจะเลือกชมหนังแบบไหน มีทัศนคติอย่างไรกับหนัง แต่ก็อย่าได้ลืมศีลธรรมอันดีงามข้องบ้านเราที่นับวันจะยิ่งลดน้อยลง และ ถึงหนังจะไม่เข้าฉาย แต่ก็ยังมีดีวีดี…
ปีชวด : ดีวีดีก็ตรวจ
ปันยา : ถึงไม่มีดีวีดี ก็มียูทู๊บ
ปีชวด : ยูทู๊บก็โดนแบนได้
ปันยา : ยังมีแผ่นผี!!! บิททัวเร้น!!! เพื่อนส่งมาให้ทางอีเมล์!!!
ปีชวด : อันนี้ตามบี้ไม่ไหวจริง
ปันยา : ฮ่า ๆ ตูชนะ ลาไปก่อนสวัสดีครับ

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้