หลังจากความพยายามอย่างหนักจน Dragon Ball Z ประสบความสำเร็จ ทำให้ทาง Bandai เข็นเกม Dragon Ball Z2 ( Budokai 2 ) และ Dragon Ball Z3 ( Budokai 3 ) ออกมาติด ๆ
รวมถึงทำซีรีส์ใหม่อย่าง Dragon Ball Z Sparking (Dragon Ball Z Budokai Tenkaichi) ที่ภาคสุดท้ายอย่าง Sparking Meteor หรือ Budokai Tenkaichi 3 กลายเป็นเกมขึ้นหิ้งที่แฟนคลับยกให้เป็นเกมซีรีส์ Dragon Ball ที่ดีที่สุดตลอดกาลเกมหนึ่ง
Uchiyama
จากเรื่องเมื่อข้างต้นที่กล่าวมา ทำให้ทาง Bandai มีการเปลี่ยนคนดูแล การสร้างกฎขึ้นมาเช่น “ทำแบบนี้ได้” กับ “ทำแบบนี้ไม่ได้” เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างมีการผ่อนปรน โดยช่วง 2-3 ปีจะมีการเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นครั้งหนึ่ง และ ตอนนั้นเองคุณ Torishima ก็มาบอกผมว่า “เขาจะเลิกดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับสินค้า Dragon Ball ทั้งหมด” ไม่ใช่แค่ Bandai อย่างเดียว แต่บริษัทในเครือทั้งหมดอย่าง Bandai Namco หรือ Banpresto เขาก็จะเลิกกำกับดูแลทั้งหมด เป็นคนที่ทรงพลังมาก (หัวเราะ)
Torishima
เรื่องนี้ก็เช่นกันที่คุณ Uchiyama ยังเข้าใจไม่ถ่องแท้เท่าไร งั้นผมจะเสริมให้ (หัวเราะ) แม้ว่า Data CardDass ซีรีส์ Dragon Ball ของ Bandai จะขายดีในตอนที่มันทำขายออกมา แต่ขณะนั้นมีเจ้าตลาดอย่าง Konami ขายการ์ด Yu-Gi-Oh! ทำให้การ์ด Dragon Ball ขายไม่ออก เหตุผลง่ายๆ นั่นคือ Bandai ออกแบบรูปลักษณ์ได้ดีแต่ขาดการออกแบบในเชิงลึก มันเริ่มได้สวย แต่ไม่ยืนยาว การ์ดเล่นง่ายเกินไปเลยไม่มีความเด่นในเรื่องการวางแผน
ในช่วงที่ผมบอกว่าเลิกดูแล ผมได้ให้คำใบ้กับพวกเขาไปว่าให้รวมการ์ดกับเกมเข้าด้วยกัน ตอนนั้น Bandai Namco ได้ก่อตั้งพอดี พวกเขาต้องมีเทคโนโลยีที่ดีอยู่กับตัวแน่นอน ผมเลยไปบอกให้เขาไปเอาวิศวกรมาช่วยออกแบบกฎของการ์ดเกม และตั้งใจสร้างเกม CardDass ซีรีส์ Dragon Ball ในฐานะกรุ๊ปบริษัทเดียวกันซะ
Uchiyama
ตอนนั้นเรื่องใหญ่มากจริงๆ ครับ แต่จากการเรื่องนี้ทำให้เราเดินหน้าต่อไปได้ครับ
Torishima
คนดูแลตอนนั้นคือคุณ Furusawa Keisuke เป็นคนที่ผมประทับใจมาก เพราะเขามักจะมาพร้อมกับไอเดียที่มีการพัฒนา แต่เขาก็บอกว่าตอนนี้ยังไม่สามารถออกการ์ดเกมตัวใหม่ได้ เพราะ Dragon Ball ไม่ได้มีการฉายฉบับอนิเมะทางโทรทัศน์ เขาเลยเสนอแผนการที่จะรับมือกับเรื่องนี้ให้ผมฟังและมันน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ปกติแล้วอนิเมะ Dragon Ball จะมีการฉายไล่ตามมังงะที่กำลังตีพิมพ์รายสัปดาห์มาติดๆ ต้นฉบับมีไม่กี่หน้าแต่ก็ยืดแล้วยืดอีก ทำให้จังหวะการเดินเรื่องออกมาแย่ คุณ Furusawa เลยเสนอว่า
” งั้นเรามาทำอนิเมะที่ดำเนินเรื่องตามต้นฉบับ โดยการตัดส่วนออริจินอลที่ยืดออกมาให้หมดกันไหมครับ ? “
พอนำเรื่องไปคุยกับคุณ Morishita Kozo ผู้เป็นโปรดิวเซอร์จาก Toei Animation ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า “แบบนั้นน่าสนใจดีนะ” จึงทำให้เกิดอนิเมะ “Dragon Ball Kai” ขึ้นมา
ผลลัพธ์ของการทำภาค Kai ออกมาทำให้พวกเด็ก ๆ สามารถชมอนิเมะ Dragon Ball ได้อีกครั้ง พอผ่านไปได้ไม่นาน ก็ได้มีการสร้างการ์ดเกม Dragon Ball ที่จริงจังภายใต้แผนการของกรุ๊ปทั้งหมดออกมา ทำให้การ์ดขายได้อีกครั้ง
Unozawa
ในขณะเดียวกันที่อนิเมะ One Piece ฮิตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสื่อและสินค้าต่างๆ ที่เน้นกำกับดูแลให้ใกล้เคียงต้นฉบับ จังหวะนี้เราจึงต้องมีการทำ Dragon Ball ให้เหมือนกัน เมื่อยังไม่มีอนิเมะภาคใหม่เราจึงต้องทำอะไรสักอย่างกับ Dragon Ball
ซึ่งอนิเมะ Dragon Ball ที่เคยฉายในอดีตมีขนาดภาพเป็น 4:3 เราก็มีการแก้เรื่องภาพให้เป็นสัดส่วนใหม่ เรื่องเนื้อหาที่จังหวะเดินเรื่องแย่เราก็ตัดส่วนที่ต้นฉบับไม่มีออกทั้งหมด ถึงจะดูเหมือนเป็นการครอบงำผลงาน Dragon Ball แต่นั่นก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ชื่อ Dragon Ball คืนชีพกลับมาได้อีกครั้ง
หลังจากนั้นทางคุณ Torishima ก็ได้ไปคุยกับอาจารย์ Toriyama กับ Toei Animation เพื่อสร้างภาพยนตร์อนิเมะเรื่องใหม่ และ นั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการสร้างภาพยนตร์อนิเมะ Dragon Ball Z Battle of God ในปี 2013 ที่เป็นเรื่องต้นฉบับภาคต่อที่แท้จริง
เมื่อปี 2018 สินค้าที่เกี่ยวกับ Dragon Ball ในกรุ๊ปของ Bandai Namco มียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง มีมูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านเยนเลย (ประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านบาท) มากกว่าซีรีส์ Gundam ซะอีก นั่นเป็นเพราะคุณ Torishima มอบสิ่งที่เรียกว่า “สัมผัสแห่งความรับผิดชอบ” ให้กับเรา ตอนนั้นคุณ Torishima เป็นกรรมการผู้จัดการอาวุโสของ Shueisha จึงมีการตรวจเช็คทางเราตั้งแต่แผนโครงการจนถึงดีไซน์ของฟิกเกอร์ เช็คทุกอย่างเลย นั่นเป็นเพราะคุณ Torishima มีสิทธิขั้นเด็ดขาดที่จะทำอะไรก็ได้กับเรา
Torishima
เอ่อคือ… เรื่องอนิเมะภาคใหม่ของ Dragon Ball ที่จริงแล้วไม่ได้ตั้งใจจะทำหรอกครับ จากเรื่องที่เล่าไปก่อนหน้านี้ คุณ Morishita ของ Toei Animation ที่ตอนนี้เป็นประธานบริษัท Toei Animation เขาเป็นคนที่ให้ความร่วมมือในการสร้างอนิเมะ Dragon Ball อีกครั้งมาก ผมต้องขอบคุณเขามาก ๆ เลย
ตอนนั้นคุณ Morishita ป่วยและเข้าโรงพยาบาล ถ้าให้พูดตามตรง ผมไม่คิดว่าเขาจะหายดีและออกจากโรงพยาบาลได้ (หัวเราะ) ในวันก่อนที่คุณ Morishita จะเข้าโรงพยาบาล เขาได้มาหาผมแล้วบอกว่า
” คุณ Torishima ถ้าหากโอกาสหนึ่งในหมื่น ผมออกจากโรงพยาบาลได้ รบกวนเห็นด้วยกับการสร้าง Dragon Ball ภาคใหม่กับผมได้ไหม ? “
และผมที่คิดว่าไม่น่าจะรอดเลยตอบไปว่า “ได้สิครับ” (หัวเราะ) แต่ปาฏิหาริย์ก็ดันเกิดขึ้น เขาหายดีและออกจากโรงพยาบาล ผมก็เลยช่วยไม่ได้น้า…
จากนั้นก็ทำให้เกิดอนิเมะ Dragon Ball Super ในปัจจุบันขึ้นมา โดยเนื้อเรื่องส่วนแรกของซีรีส์ภาคนี้จะเป็นการนำฉบับภาพยนตร์ตัวใหม่ทั้ง 2 เรื่อง Battle of God และ Resurrection มาเล่าอีกครั้ง ก่อนจะเป็นการเข้าสู่เนื้อหาใหม่แกะกล่องที่เป็นบทจักรวาลที่ 6 ปะทะจักรวาลที่ 7, Future Trunks Saga และ Universe Survival Saga
และนี่ก็คือเรื่องราวของการคืนชีพ Dragon Ball ในปัจจุบันจากเหล่าผู้เกี่ยวข้องกับชื่อ Dragon Ball ไม่ว่าจะเป็น Bandai, Shueisha และ Toei Animation ทำให้เราเห็นว่าไม่ใช่แค่ผู้เขียนต้นฉบับคนเดียวที่สามารถนำ Dragon Ball กลับมาอีกครั้งได้ แต่อย่างไรก็ตามคุณ Torishima นี่เป็นผู้ทรงอิทธิพลกับชื่อ Dragon Ball จริง ๆ !!
ที่มา: https://www.itmedia.co.jp/
TrunksTH
