สรุปอนิเมะเด็ด ในช่วงครึ่งปีแรก

แชร์เรื่องนี้:
สรุปอนิเมะเด็ด ในช่วงครึ่งปีแรก

               เป็นหัวข้อที่จะทำตั้งแต่ช่วงปิดเทอม ซึ่งก็มีคนในเว็บบอร์ดต่างๆ อยากหาอนิเมะใหม่มาดูช่วงนั้นบ้าง (สำหรับคนไม่ประสบอุทกภัย) ตอนนี้บางที่ยังคงรอเปิดในสัปดาห์หน้า บางที่ก็รอเปิดเทอมกันช่วงต้นเดือนหน้าหรือหลังจากนั้น ยังพอมีเวลาแนะนำอยู่บ้าง ในที่นี้จึงขอแนะนำเรื่องที่ฉายตั้งแต่ช่วงต้น-กลางปีและฉายจบไปแล้ว สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ดูอนิเมะกันก่อน (บางคนก็ไม่ได้ตามอนิเมะตอนต่อตอน ชอบแบบดูรวดเดียวจบมากกว่า) โดยเลือกมา 7 เรื่องที่ได้รับความนิยมสูงในช่วงปีนี้ ส่วนเรื่องที่เหลือและฉายในช่วงต้นปีจะกล่าวถึงในตอนหน้า
   
Puella Magi Madoka Magica (Mahou Shoujo Madoka Magica)

ผู้ผลิต : SHAFT
ประเภท : Drama, Magical Girl, Fantasy, Psychological, Tragedy
จำนวน : 12 ตอน
เรื่องย่อ : ในโลกของมาโดกะนั้น มีสิ่งมีชีวิตลึกลับที่สามารถทำให้ความปรารถนาของเด็กสาว ที่ถูกเลือกเป็นจริงขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตามเด็กคนนั้นจะต้องกลายมาเป็นสาวน้อยเวทมนตร์และใช้เวทมนตร์ต่อสู้กับแม่มด สัตว์ประหลาดชั่วร้ายที่เกิดมาจากคำสาปซึ่งทำให้เกิดการฆาตรกรรมและการฆ่าตัวตายปริศนา นักเรียนปีสองคานาเมะ มาโดกะ และ เพื่อนของเธอ มิกิ ซายากะ ได้พบกับคิวเบย์ สิ่งมีชีวิตปริศนาและสาวน้อยเวทมนตร์ โทโมเอะ มามิ โดยทั้งสองได้เสนอให้มาโดกะมาเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ โดยที่อีกสาวน้อยเวทมนตร์ชื่อ อาเคมิ โฮมูระ พยายามที่จะกีดกันมาโดกะจากการทำสัญญา หลังจากนั้นไม่นาน คานาเมะ มาโดกะ ก็เริ่มรู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับการเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ ที่ไม่ได้สวยงามอย่างที่วาดฝันไว้

    เดิมทีพล็อตสาวน้อยเวทมนตร์คงนึกถึงแนวการ์ตูนเด็กและน่ารักสดใส ซึ่งก็มีการฉีกแนวไปเป็นแบบต่างๆ มากมาย อาจจะบู๊กันถล่มทลายหรือเพิ่มเนื้อเรื่องดราม่าเข้าไปบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่คล้ายกัน คือ ความอบอุ่นของตัวละครและพล็อตที่ไม่ซับซ้อนนัก เรื่องนี้มีการฉีกแนวสาวน้อยเวทมนตร์อีกครั้ง ด้วยพล็อตเรื่องที่เดายากและสอดแทรกปริศนาไว้มากมายเกินกว่าที่จะจินตนาการ แม้แต่ชีวิตของตัวละครหลักก็ยังคงไม่มีอะไรการันตีว่าจะรอดไปถึงช่วงปลายเรื่อง
    เรื่องนี้ได้รับความนิยมสูงในญี่ปุ่นอย่างมากในปีนี้ ถล่มยอดขายสัปดาห์แรกไปด้วยยอดรวมประมาณ 6 หมื่นแผ่นขึ้น ซึ่งในญี่ปุ่นว่ากันว่าได้สักหมื่นแผ่นก็ประสบความสำเร็จไปแล้ว สาเหตุหนึ่งเพราะหลายๆ อย่างที่ทางผู้ผลิตเตรียมไว้ ตั้งแต่บอกว่าเรื่องนี้จะมาแนวอบอุ่น แต่ก็มีการหักมุมแบบคาดไม่ถึง และปริศนามากมายนับสิบอย่างที่ปรากฏขึ้นในเรื่องอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่มีเรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้นเรื่อยๆ จนคาดเดาเรื่องต่อไม่ถูก และไม่เห็นวี่แววว่าจะไปสิ้นสุดลงได้อย่างไร ถ้ามาดูตอนนี้อาจจะไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนเมื่อก่อน เพราะสามารถดูรวดเดียวจบในระยะเวลาอันสั้น ต่างจากตอนที่ลุ้นกันสัปดาห์ละตอน แต่โดยรวมยังคงถือเป็นเรื่องที่น่าดูเรื่องหนึ่งในปีนี้

 

Steins;Gate

ผู้ผลิต : White Fox
ประเภท : Science Fiction, Thriller
จำนวน : 24 ตอน
เรื่องย่อ : กล่าวถึงเมืองอากิบาฮาระ ในปี 2010 ตัวเอกของเรื่อง โอคาเบะ รินทาโร่ นักศึกษาปี 1 ผู้ที่คลั่งไคล้ในเรื่องทฤษฏีไทม์แมชชีน เขาเปลี่ยนห้องพักตัวเองเป็นห้องทดลองและตั้งกลุ่มเพื่อค้นคว้าเรื่องการเดินทางข้ามกาลเวลา โอคาเบะ ได้แรงบันดาลใจจาก จอห์น ไทเทอร์ ผู้ที่อ้างว่าเดินทางมาจากอนาคตในปี 2036 วันหนึ่งระหว่างที่โอคาเบะ ได้ไปฟังบรรยายเรื่องไทม์แมชชีน ก็เกิดเรื่องประหลาดหลายเรื่องต่อเนื่อง เช่น พบผู้หญิงที่เขาเพิ่งรู้จักถูกแทง, วัตถุคล้ายดาวเทียมพุ่งชนตึก, เพื่อนที่จำเหตุการณ์บางอย่างในช่วงวันนั้นไม่ได้ และอีกหลายอย่าง จนเขาพบว่ามือถือของตัวเองส่งข้อความไปให้เพื่อนในอดีตด้วยเงื่อนไขบางอย่าง และทำให้เครื่องไมโครเวฟที่ห้องทดลองส่งสิ่งของกลับไปยังอดีตสำเร็จ ยิ่งเขาถลำลึกเข้าไปในเรื่องการทดลองเพื่อสร้างไทม์แมชชีน ก็ยิ่งทำให้พบความจริงที่คาดไม่ถึง และต้องแลกกับสิ่งสำคัญหลายอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น


    ช่วงแรกของเรื่องจะให้ความรู้สึกไม่ต่างจากเรื่องที่อิงทฤษฏีวิทยาศาสตร์มากนัก เดินเรื่องค่อนข้างช้า จะมาเริ่มสนุกประมาณกลางเรื่อง ซึ่งจะมีเหตุการณ์ตื่นเต้นชวนติดตามและลุ้นระทึกทุกตอนอย่างต่อเนื่องจนจบ ตัวเรื่องที่อิงนิยายวิทยาศาสตร์หลายอย่างมาผสมผสานกัน ทำให้พล็อตเรื่องคล้ายกับภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง แต่เรื่อง Steins;Gate ได้เพิ่มในส่วนทฤษฏี, วิธีแก้ไขปัญหา, เบื้องหลังของเหตุผลบางอย่าง และโศกนาฏกรรมที่เกี่ยวกับการย้อนเวลา รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ทั้งสนุกสนานปนความเศร้าสลับกันไป ทำให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่างจากภาพยนตร์ และสื่ออารมณ์ตัวละครได้อย่างลึกซึ้งและสร้างความตื่นเต้นและความประทับใจให้คนดูได้ไม่น้อย


Ano Hi Mita Hana no Namae o Bokutachi wa Mada Shiranai (AnoHana)

ผู้ผลิต :  A1-Picture
ประเภท : Drama, Slice of life story, Tragedy
จำนวน : 11 ตอน
เรื่องย่อ : กลุ่มเด็ก 6 คน ที่เคยอยู่ร่วมกัน แต่หลังจาก เมมมะตาย ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเอง ไม่ได้สนิทเหมือนเมื่อก่อน หลังจากนั้นผ่านไปหลายปี ยาโดมิ จินตะ ซึ่งกลายมาเป็นคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน จบพบกับวิญญาณเมนม่าที่ดูอายุมากขึ้นพอๆ กับเขา และเชื่อว่าเธอยังมีสิ่งที่ค้างคาอยู่ทำให้ไม่สามารถไปสู่สุคติได้ จินตะจึงตัดสินใจที่จะออกตามหากลุ่มเพื่อนในวัยเด็กด้วยความเชื่อที่ว่าพวกเขาจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ราวกับเวลาที่หยุดเดินไปในอดีต ได้เริ่มต้นเดินอีกครั้ง


    ชื่อเรื่องที่ยาว แปลตรงๆ ก็ “เรายังคงไม่รู้ชื่อของดอกไม้ ที่เราเห็นในวันนั้น” เป็นเรื่องที่นอกกระแสมากตอนที่ฉาย เพราะพล็อตเรื่องบอกเหมือนวิญญาณเพื่อนในวัยเด็กปรากฏตัวให้เห็นอีกครั้ง แต่พอเริ่มฉายกลับเป็นเรื่องที่ทำให้คนดูรู้สึกระลึกความหลังในวัยเด็กและน้ำตาคนดูได้อย่างคาดไม่ถึง พร้อมความเรียบง่ายหลายอย่างที่ผสมบทตลกขบขันกับความขัดแย้งในหลายเรื่อง จนเป็นเรื่องประทับใจเรื่องหนึ่งในปีนี้


Tiger & Bunny

ผู้ผลิต :  Sunrise
ประเภท : Action, Comedy, Mystery, Super Power
จำนวน : 25 ตอน
เรื่องย่อ : กล่าวถึงโลกสมมุติในปี NC 1978 ซึ่งเมื่อ 45 ปีก่อน พวกมีพลังพิเศษเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ คนกลุ่มนี้ถูกเรียกว่า NEXT บางคนนำพลังไปใช้ในทางที่ผิดเกินกว่าที่คนธรรมดาจะรับมือได้ จึงมีการสร้างรายการทางโทรทัศน์ Hero TV เพื่อให้คนทั่วมีทรรศนคติที่ดีต่อพวก NEXT มากยิ่งขึ้น และ NEXT บางคนจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นฮีโร่คุ้มครองเมืองโดยมีสปอนเซอร์เป็นบริษัทใหญ่คอยหนุนหลังอยู่
    โคเท็ตสึ (Wild Tiger) ฮีโร่ที่อยู่ในวงการมานาน มุ่งมั่นช่วยเหลือคนมากกว่าทำคะแนน แต่พออายุมากขึ้นก็ฟอร์มตก ทำผิดพลาดประจำ จนวันหนึ่งบริษัทที่ให้การสนับสนุนถูกเทคโอเวอร์ไป และต้องมาร่วมงานในบริษัทใหม่กับบาร์นาบี้ บรู๊ค จูเนียร์ ฮีโร่หน้าใหม่ไฟแรง จริงจังอยู่เสมอ ที่ต้องการค้นหาเงื่อนงำการตายของพ่อแม่ตัวเอง เนื่องจากความแตกต่างระหว่างวัยและด้านนิสัยที่แตกต่างกันคนละขั้ว ทำให้ทั้งสองมีเรื่องให้ขัดแย้งกันประจำ บาร์นาบี้ บรู๊ค จูเนียร์ ถูกโคเท็ตสึตั้งชื่อเล่น ไว้ว่า Bunny ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรื่อง Tiger & Bunny


    อ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกว่า พวกนี้น่าจะเรียกว่าพนักงานกินเงินเดือนแทน และพล็อตเรื่องคล้ายพวกกลายพันธุ์ใน X-Men ซึ่งมีส่วนคล้ายอยู่ แต่ถูกนำเสนอในมุมมองแตกต่างกัน เพราะตัวเรื่องค่อนข้างอิงกับชีวิตจริงมากกว่าที่จะเป็นฮีโร่ในองค์กรลับที่ร่วมต่อสู้กับเหล่าร้ายสไตล์ยุโรป แทนที่จะได้เห็นแต่การต่อสู้เท่ๆ ปราบเหล่าร้ายทั้งเรื่อง จะได้เห็นการใช้ชีวิตของพวกฮีโร่, มีความขัดแย้ง และมีการแย่งผลงานกันบ้างเพื่อทำคะแนน ผสมผสานกันไป ด้านเนื้อเรื่อง ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด โดยเฉพาะตัวเอกของเรื่อง โคเท็ตสึ ที่สร้างสีสันให้กับคนดู แม้หลายอย่างจะตั้งใจทำแต่สิ่งที่ตามมากลายเป็นความตลกขบขันเสมอ และด้านความสัมพันธ์ของตัวละครที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา


Ao no Exorcist (Blue Exorcist)

ผู้ผลิต : A-1 Pictures
ประเภท : Action, Fantasy, Shounen, Supernatural
จำนวน : 25 ตอน (ในไทย DEX ได้ลิขสิทธิ์แล้ว)
เรื่องย่อ : ในค่ำคืนหนึ่งเมื่อ 16 ปีก่อน ซาตานจากโลกปีศาจเข้าสิงร่างมนุษย์ และกำจัดเหล่านักขับไล่ปีศาจชั้นสูงจำนวนมากในที่ต่างๆ บนโลก ด้วยเปลวเพลิงสีฟ้า มีการเรียกโศกนาฏกรรมนั้นว่า “ราตรีสีคราม”  เวลาผ่านไปจนถึงปัจจุบัน โอคามุระ ริน ตัวเอกของเรื่องที่ใช้ชีวิตอย่างธรรมดา ต้องมาพบความจริงที่ว่า ตัวเขาเป็นบุตรที่สืบทอดพลังของซาตาน และพ่อเลี้ยงปิดบังความจริงมาตลอด ภายหลังที่ได้เห็นความเสียสละของพ่อเลี้ยงผู้เป็นบาทหลวงและนักขับไล่ปีศาจชั้นสูง รินจึงเลือกเส้นทางที่จะเป็นนักขับไล่ปีศาจ (Exorcist) และตั้งใจจะสู้กับซาตานพ่อแท้ๆ ของตัวเอง จนได้มาเรียนในโรงเรียน True Cross Academy และได้พบว่าน้องชายฝาแฝดของเขา โอคามุระ ยูคิโอะ ที่ไม่ได้สืบพลังปีศาจ เป็นอาจารย์สอนวิชาของ Exorcist อยู่ที่นี่


    เนื่องจากตัวเรื่องค่อนข้างเดินเรื่องเกี่ยวกับพวกเรื่องเหนือธรรมชาติพวกภูติผีปีศาจ มีการอ้างถึงบางส่วนจากคัมภีร์ไบเบิ้ลผสมกับเรื่องลึกลับหลายอย่าง รวมถึงบทต่อสู้และการหยอดมุกตลอดขบขันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อกันว่าอนาคตจะไปได้ไกลราวกับพวกแนวเดียวกันอย่าง Full Metal Alchemist ที่เพิ่งจบไปเมื่อปีก่อน หลังจากเรื่องนี้เริ่มฉาย ก็ได้รับความนิยมสูงในญี่ปุ่นมากขึ้น ส่งผลให้ฉบับหนังสือขายดีกว่าเมื่อก่อนร่วมสิบเท่า จนต้นสังกัดต้องประกาศตีพิมพ์ถึง 1 ล้านเล่มในช่วงที่เล่ม 7 ออก ถึงอนิเมะช่วงท้ายจะถูกเปลี่ยนแปลงไปให้แตกต่างจากฉบับหนังสือการ์ตูน แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำออกมาได้ดีทั้งด้านคุณภาพและตัวเนื้อเรื่อง


Usagi Drop

ผู้ผลิต : Production I.G.
ประเภท : Comedy, Drama
จำนวน : 11 ตอน
เรื่องย่อ : คาวาจิ ไดคิจิ ชายอายุ 30 ปี กลับมายังบ้านเกิดเพื่อร่วมงานศพของคุณตา และได้พบกับ ริน เด็กสาววัย 6 ขวบที่เป็นลูกของคุณตากับภรรยานอกสมรส เนื่องจากรินไม่มีญาติคนอื่นและคนในครอบครัวเขาไม่ยอมรับลูกนอกกฏหมายของปู่ ไดคิจิจึงเลือกที่จะรับเลี้ยงดูแลเธอเองทั้งที่ตัวเขาไม่เคยเลี้ยงเด็กและไม่มีคนรักก็ตาม ชีวิตประจำวันของเขากับคุณน้าวัย 6 ขวบจึงได้เริ่มต้นขึ้น และหลายๆ สิ่งในชีวิตเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างที่เขาไม่เคยพบมาก่อน

     อีกเรื่องมีสื่อออกมาได้ค่อนข้างซึ้งระหว่างความสัมพันธ์ของคนสองวัยที่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันและอีกหลายสิ่งที่ตามมาในชีวิต เคยมีรีวิวฉบับหนังสือการ์ตูน ที่เขียนในสนพ.มติชนรายสัปดาห์ จากฉบับวันที่ 24 ก.ค. 2554 "Usagi Drop" เรื่องพรรค์นี้มีดีที่ลีลา ลองอ่านดูแล้วจะเข้าใจโครงสร้างที่ลึกซึ้งของเรื่องนี้มากขึ้น กดที่นี่

    ในแบบอนิเมชั่นทางทีวียังคงเอกลักษณ์หลายๆ อย่างไว้ได้อย่างครบถ้วน แต่ยังไม่อวสานและคาดว่าน่าจะมีภาคในเร็วๆ นี้ เรื่องนี้เคยมีภาคคนแสดงฉายในญี่ปุ่นไปแล้วในช่วงที่อนิเมะฉาย


IS: Infinite Stratos

ผู้ผลิต : 8bit
ประเภท : Action, Comedy, Mecha, Sci-Fi, Shounen, Harem
จำนวน : 12 ตอน (ในไทย ROSE ได้ลิขสิทธิ์แล้ว)
เรื่องย่อ : เรื่องราวในอนาคตอันใกล้ วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นได้สร้างเกราะภายนอกที่เรียกว่า Infinite Stratos (IS) ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก จนมีการกำหนดห้ามใช้ในการทหาร และให้เผยแพร่เทคโนโลยีนี้แก่ทั่วโลกเพื่อป้องกันปัญหาที่บางประเทศจะครอบครองพลังนี้เอาไว้ แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่ใช้ IS ได้มีแต่ผู้หญิงเท่านั้น
    ผ่านไปสิบปี เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่โอริมุระ อิชิกะ ได้พบว่าตัวเขาทำให้ IS มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเขาได้ ทำให้ทางการญี่ปุ่นได้ส่งตัวเขาไปเรียนในสถานที่ศึกษาการใช้งาน IS โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่รวมนักเรียนทหารต้องการฝึกใช้ IS จากทั่วทุกมุมโลก แน่นอนว่ามีแต่ผู้หญิงและเขาเป็นผู้ชายคนเดียวท่ามกลางเหล่านักเรียนหญิงทั้งหมดในสถาบันแห่งนี้

     มีชื่อเรียกขำๆ ว่า “ฮาเร็มสหประชาชาติ” ตัวเนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรซับซ้อนแบบเรื่องอื่นที่แนะนำไปข้างต้น ออกแนวขายตัวละครมากกว่า แต่สำหรับคนชอบแนวตัวละครหญิงเยอะๆ หยอกมุกตลกนิด, มีฉากต่อสู้บ้าง ก็ไม่น่าพลาดเรื่องนี้

   ส่วนเรื่องอนิเมะที่กำลังจะฉายใน Winter 2011/2012 ที่ลงตอนแรกในสัปดาห์ก่อน จะลงอัพเดตอีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้ กับปลายเดือนหน้า เพราะยังมีเวลาอีกพอสมควรกว่าจะเริ่มฉาย ในวันอังคารหน้ามาดูเรื่องอื่นที่น่าดูในปีนี้กันต่อ ลิสต์ไว้ราวๆ 30 - 40 เรื่องได้เฉพาะที่ฉายในปีนี้ กำลังตัดให้เหลือเฉพาะเรื่องเด่นๆ และสรุปให้จบในตอนหน้า

   สำหรับเรื่องที่กำลังฉายและเรื่องที่กำลังจะฉายในช่วงต้นปีหน้า เคยกล่าวถึงไปบ้างแล้ว ตามลิงค์ข้างล่างนี้

Link กระทู้เก่า

Preview อนิเมะเรื่องใหม่ใน Anime Fall 2011

ข้อมูล Anime Winter 2011/2012 (ตอนที่ 1)

 

   Update (22.30 น.) : เพิ่มตัวหนาในย่อหน้าแรกและเปลี่ยนหัวข้อ ของเดิมใช้ "แนะนำอนิเมะน่าดูในปี 2554" แล้วกำกวมเกินไป กลายเป็นเข้าใจว่าเป็นเรื่องใหม่ที่กำลังฉาย (ซึ่งเคยเขียนแนะนำไปบ้างแล้ว) ตอนเขียน ตั้งใจจะสรุปเรื่องที่น่าดูตลอดปี เนื่องจากผมเพิ่งได้เขียนในส่วน OS Corner ประมาณ 2-3 เดือน จึงคิดว่าย้อนไปดูเรื่องเก่าๆ บ้างดีกว่า โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน เมื่อครบทั้งก็ค่อยๆ แนะนำเรื่องที่กำลังฉายไปทีละ 2 - 3 เรื่องตามสัปดาห์ให้ละเอียดมากขึ้น สลับกับพวกข่าววงการการ์ตูนใหม่ๆ 

   สรุปก็ เปลี่ยนหัวข้อเป็น "ช่วงครึ่งปีแรก" น่าจะสื่อความหมายชัดกว่า ตอนหน้าค่อยเป็นแบบสรุปทั้งปีและพวกที่ฉายครึ่งปีแรกบางเรื่องที่ยังไม่กล่าวถึงในตอนนี้

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ