เมื่อดูจากตัวเดโมของเกมส์ในงาน E3 Star War : The Old Republic มีแนวการเล่นที่ดูเหมือนจะเป็นภาคต่อจาก Knight of the Old Republic ซึ่งภาคดังกล่าวเมื่อพิจารณาวิธีการต่อสู้และคุณค่าของเกมส์ที่ผู้สร้างพัฒนาจะเหมาะสำหรับการเล่นแบบ Singleplayer ทำให้พูดได้เลยว่าการสร้างให้เป็นเกมส์ออนไลน์นั้น ดูจะเป็นแผนการใหญ่ไม่น้อย
นับจากครั้งที่ได้ลองโลดแล่นในเซิฟเวอร์ที่ Austin Studio แล้ว ตอนนี้ The Old Republic กลับยิ่งดูเหมือนโลกจริงๆ มากกว่าเดิม ช่วงต้นของเกมส์นั้น Dallas Dickinson จาก BioWare ได้พาพวกเราไปสู่ Hutta โดยผู้เล่นเริ่มต้นเกมส์ในฐานะนักล่าค่าหัว (Bounty Hunter)
BioWare มีเป้าหมายให้ MMO เกมส์นี้เป็นเกมส์แรกที่เน้นเนื้อเรื่องเป็นหลัก และต้องการสร้างความประทับใจกับฉากพูดต่างๆ โดยจะมีตัว NPC คอยแจกเควสภายในเกมส์ ด้านมุมกล้องเองก็ปรับเป็นมุมมองด้านเดียวกันกับที่ตัวละครหัน เมนู Mass Effect-style radial ก็แสดงให้เห็นถึงการตอบสนองในคำสั่งนั้น ทุกๆฉากเต็มไปด้วยเสียงพากย์ประกอบ ทั้งหมดเลยส่งผลให้การเล่น MMO เกมส์แทบจะเหมือนกับการเล่นแบบ Singleplayer
ที่น่าประทับใจไปกว่านั้นก็คือการเพิ่มเติ่มในส่วน Second party member นั่นก็คือเมื่อผู้เล่นทำการคุยกับ NPCs ที่ The Old Republic ผู้เล่นคนอื่นในทีมก็จะสามารถมีส่วนร่วมในการคุยนั้นโดยเลือกตอบข้ออื่นได้ ดังนั้น ถ้าเกิดว่าผู้เล่นเลือกตอบข้อหนึ่ง แต่ผู้เล่นอีกคนกลับเลือกอีกข้อ ทั้งคู่ก็จะได้พบกับเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไปตามแต่คำตอบที่ตัวเองเลือก
เมื่อก้าวออกจากเมืองหลวง Hutta ก็จะพบบรรยากาศแวดล้อมที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันสวยงามของฉากที่วาดขึ้น ส่วนบรรยากาศและรายละเอียดบริเวณ The Old Republic กับอาณาเขตรอบๆเองก็ดูจะไม่เคร่งขรึมเท่าไหร่นัก และด้วยการออกแบบของ BioWare ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นระหว่างนั้น ก็ได้กำหนดให้ตัวละครของผู้เล่นส่องแสงออกมา ซึ่งจะดูผิดแปลกไปเล็กน้อยจากบรรยากาศในส่วนที่เหลือ
หลังจากได้ลองทำการต่อสู้ในสองสามฉากในเกมส์ ก็พบว่าเป็นระบบต่อสู้ที่น่าตื่นตา Bounty Hunter ที่พวกเราแรกเริ่มได้เป็นกัน จะทำการสู้ในระยะไกล โดยสามารถเคลื่อนไหวเพื่อยิงปืน blaster ได้อย่างอิสระ ถ้าเกิดฝ่ายศัตรูยิงกลับมาก็จะเห็นเป็นลำแสงเลเซอร์จากเหนือหัวของอีกฝ่ายเล็งตรงมายังกล้องมุมมองของผู้เล่น ทั้งนี้แต่ละตัวละครจะมีอุปกรณ์ในการต่อสู้ระยะประชิดแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็น Bounty Hunter จะสามารถก้าวไปอยู่ใกล้ศัตรูพร้อมกับเล่นงานอีกฝ่ายด้วย Wrist-mounted Flamethrower (ปืนไฟ) ได้
ความสามารถในแต่ละคลาสของตัวละครจะคล้ายคลึงกับบุคลิกที่เป็นต้นแบบ เช่น ตัวละคร Smuggler ก็จะมีลักษณะเหมือน Han Solo ที่ชอบใช้ปืนสั้นในการยิงเป้าหมาย, ใช้หมัดต่อย และเตะหว่างขาถ้าถูกศัตรูเข้ามาใกล้ MMO เกมส์นี้ไม่เหมือนกับ MMO ทั่วไปก็ตรงที่ว่า Smuggler สามารถใช้ระบบพรางตัวได้ ซึ่งเมื่อทำการซ่อนตัวแล้วจะมีไฮไลท์วงกลมตรงบริเวณที่ซ่อนและมีเส้นสีเขียวล้อมรอบตัวละครอยู่ ที่ซ่อนก็อย่างเช่น หลังก้อนหิน ต้นไม้ หรือเศษซากปรักหักพัง ซึ่งเป็นทางเลือกพิเศษในการป้องกันตัวเองในระหว่างที่ต้องต่อสู้ระยะไกลในการยิงตอบโต้กัน
นี้ก็เป็นเหมือนกับ MMO ทั่วๆไป นั่นก็คือมีปุ่มคีย์ลัด , minimap, มีปุ่มย่อยอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดรวมกันอยู่ในเมนูเกมส์เช่นเคย แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่าระบบการต่อสู้หรืออินเตอร์เฟสทั่วไป นั่นก็คือความประณีตของ The Old Republic ที่ BioWare ได้เพิ่มเติมซีนาริโอ้ตามที่ได้ถูกเรียกร้องขึ้นมา ซึ่งฉากดังกล่าวผู้เล่นจะได้พบกับซิธ (Sith) มุ่งหน้าไปยังยานอวกาศ แล้วทำการสำเร็จโทษกัปตันที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
หลังจากนั้นตัวเกมส์ก็จะตัดฉากไปเป็นบทพูดดราม่าเข้มข้น ผู้เล่นจะมีตัวเลือกให้ดำเนินเนื้อเรื่องว่าจะให้กัปตันผู้โชคร้ายมีชีวิตอยู่ โดยจะได้ระดับแห่งด้านสว่างเพิ่ม (Light-side) หรือไม่ก็กำจัดเขาทิ้งซะ ซึ่งในการทดลองเล่นเราได้เลือกหนทางแห่งความตายให้กับเขา และผลที่ได้รับก็คือระดับ Dark-side ของเราเพิ่มขึ้น ทำให้ตัวละครของเราเข้าใกล้ความบ้าคลั่งมากขึ้นทุกที ซึ่งด้านมืดนี้จะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาใช้ได้ในกรณีที่ผู้เล่นอยู่ในจุดพีคสุดๆเท่านั้น
พอสังหารกัปตันคนนั้นแล้ว ยานอวกาศที่จอดอยู่ข้างเคียงก็เริ่มทำการโจมตีเต็มกำลังทันที ผู้เล่นจะเห็นเหตุการณ์ที่ฝ่ายศัตรูทำการโจมตีจากทางหน้าต่างสะพานเดินเรือ Background ความโกลาหลของสงครามภายในเกมส์ที่มีรายละเอียดสูงขนาดนี้ ดูเหมือนจะเป็นข่าวใหม่ในวงการ MMO เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม การประลองดาบเลเซอร์ของเหล่าเจไดคงเป็นสิ่งเดียวที่ยังไม่ได้เห็นจากตัวเกมส์ตอนที่ได้ลองเล่น ส่วนที่เห็นว่าส่งตรงจากตัวหนังเลยก็คงจะเป็นการที่ตัวร้ายอย่างซิธ (Sith) ทำการกระโดดอย่างคล่องแคล่วไปปัดการยิง Laser blasts แล้วก็ป้องกันการโจมตีที่ตามมาระลอกสอง จากนั้นก็จบลงด้วยการควงดาบเซเบอร์ที่แย่งชิงมา
การหักมุมของ demo ในรอบนี้ คงไม่พ้นศึกสุดท้ายระหว่าง Demo Operator ที่เล่นเป็นซิธ และ Bounty Hunter กับฝ่าย NPC ที่เป็นอัศวินเจได การต่อสู้ดูเหมือนว่าสองตัวร้ายกำลังรุมทำร้ายเจไดที่บริสุทธิ์ราวกับในหนังก็ไม่ปาน ในที่สุดซิธก็ได้ใช้พลังบีบคออัศวินเจได ตามติดด้วย Bounty Hunter กระหน่ำซ้ำปืนไฟ ท้ายที่สุดอัศวินเจไดก็ถูกสังหาร ซิธขโมยดาบเลเซอร์ของอัศวินเจไดแล้วเอามาใช้เป็นดาบเลเซอร์คู่
หากของอลังการงานสร้างก็คงแย่ที่ว่าต้องใช้เงินลงทุนมากมายไปกับการสร้างสรรค์เกมส์นี้ขึ้นมา นั่นรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการเปิดตัวด้วย แต่ถึงแม้ Star Wars จะไม่ได้นำเสนอมุมมองแฟนตาซีจ๋าแบบ World of Warcraft แต่ก็เป็นเกมส์แรกที่ได้ทดลองเล่นแล้วรู้สึกท้าทาย ทั้งยังคงความเป็น MMO ที่ต้องมีทั้ง PVP, ระบบสร้าง-อัพเกรดสิ่งของ, ระบบกิลด์ และระบบสงครามเอาไว้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย