เมื่อช่วงเดือนมีนาคมต้นปีที่ผ่านมา นาย Peter Molyneux ดีไซน์เนอร์เกมซีรี่ส์ Fable ออกมาพูดจริงทีเล่นทีว่าใน Fable III เขาจะเปลี่ยนทิศทางของเกมไปในรูปแบบใหม่ ซึ่งพอมาถึง DLC “See The Future” แฟนๆก็เห็นกันแล้วจริงๆว่าเปลี่ยนแปลงจากทิศทางเดิมไปมากๆ จนอีกครั้งล่าสุดในงาน GamesCom 2009 ที่ Cologne ประเทศเยอรมัน เขาก็ออกมายืนยันแนวคิดนี้อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Fable III อย่างเป็นทางการ
“การเป็นภาคที่สามในซีรี่ส์และเป็นภาคที่สองบนแพลตฟอร์มเดิมมันทำให้เรื่องนี้มีปัญหามากครับ” นาย Molyneux กล่าว โดยแทนที่เขาจะนำ Fable II มาปรับโฉมนิดหน่อย แต่เขากลับอยากให้ผู้เล่นรู้สึกประหลาดใจและ “คาดหวังในสิ่งแปลกใหม่” ซึ่งในภาคนี้นั้น หมายถึง การปกครองอาณาจักร
“อาณาจักร Albion เกิดการเปลี่ยนแปลง ที่นี่ต้องการผู้นำ โดยอาจจะเป็นพระราชาหรือพระราชินี ผู้นำที่น่ายกย่องหรือจอมกดขี่บ้าอำนาจ ซึ่งตอนนี้ประวัติศาสตร์ส่วนนั้นยังไม่ถูกกำหนดไว้ หากว่ามันกำลังจะเริ่มต้นขึ้นต่างหาก”
แทนที่จะได้เล่นเป็นฮีโร่ แต่ผู้เล่นจะได้เล่นเป็นบุตรชายหรือบุตรหญิงของฮีโร่แห่งอาณาจักร Albion แทน แล้วค่อยไต่เต้าไปเป็นผู้นำ ซึ่งส่วนนี้อธิบายตัวอย่างสั้นๆตัวแรกของเกมนี้ได้ดี ในครึ่งแรกของเกม ผู้เล่นจะได้เป็นผู้นำต่อสู้กับราชาผู้ชั่วร้ายด้วยการรวบรวมผู้ติดตามกับหน่วยต่างๆ แล้วจากนั้นจะได้ออกไปเผชิญหน้ากับโลกความจริงว่าเพราะเหตุใดสถานการณ์โลกถึงเป็นเช่นนี้
ผู้เล่นจะต้องตัดสินใจว่าจะเลือกรักษาสัญญาการตอบแทนข้อไหนที่ให้ไว้กับเหล่าผู้ติดตาม ซึ่งพอถึงเวลาแล้วผู้เล่นจะรู้ว่ามันใช่เรื่องง่ายๆอย่างที่คิดเลย โดยทางผู้พัฒนาบอกว่าตรงส่วนนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบุคคลในประวัติศาสตร์บางคน เช่น Joan of Arc, Richard III และ Genghis Khan
“ถ้าถามว่าทำไมไม่ให้เป็นพระราชาหรือพระราชินีคนนั้นเลยล่ะ? นั่นก็เพราะว่าผลจากการกระทำและการตัดสินของผู้เล่นไม่ได้เกิดกับตัวเองเท่านั้น แต่ส่งผลไปทั่วทั้งอาณาจักรต่างหาก” นาย Molyneux กล่าว ว่าเขาอยากให้ผู้เล่นรู้สึกได้ถึงพลังอำนาจจากการกระทำของตนเองและผลกระทบที่มีต่ออาณาจักร ซึ่งก็เหมือนกับ Fable ภาคอื่นๆ ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นคนดีหรือคนเลว อาจจะยากจน ละโมบ บ้าอำนาจ มีเมตตา เจริญก้าวหน้า หรือมีขนบธรรมเนียม และเช่นกันกับใน Fable II ครอบครัวของผู้เล่นก็จะมีบทบาทเช่นกัน ผู้เล่นสามารถขยายปราสาทเพื่อเอาใจพระราชาหรือพระราชินีด้วยเงินจากกระเป๋าของพรรคพวกตนเอง ซึ่งแน่นอนเราจะได้เห็นตัวละครจาก Fable II ในภาคนี้ด้วย
นอกจากนี้สภาพภูมิประเทศของ Albion จะถูกเปลี่ยนจากพื้นที่เขียวชอุ่มไปเป็นแดนอุตสาหกรรมอีกด้วย เพื่อแสดงถึง “ชีวิตอาณาจักร” และความยากจนกับความอยุติธรรมที่มีอยู่ ในด้านของระบบ ภาคนี้ผู้เล่นจะสามารถอภัยโทษหรือชี้ชะตาพลเมืองคนไหนอย่างไรก็ได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีระบบใหม่ที่เรียกว่า “Touch” เนื่องมาจากการแสดงออกทางสีหน้าและคำพูดไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้เล่นในภาคนี้อีกต่อไปแล้ว (ก็เราเป็นคนปกครองอาณาจักรนี่นา….) ระบบนี้จะทำให้ผู้เล่นสามารถจับมือ สวมกอด โอบกอด หรือแม้กระทั่ง “จูบเล้าโลม” ได้ ระบบ “Dynamic Touch” จะให้ความสามารถมากมายแก่ผู้เล่นแม้กระทั่งจับมือกับใครคนใดคนหนึ่งยืนดูตะวันลับขอบฟ้า
“ลองจินตนาการว่ากำลังได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่ในบ้านสิครับ” นาย Molyneux กล่าว “คุณในฐานะฮีโร่ คนปกครอง กระโจนเข้าไปในบ้านเพื่อช่วยเหลือเด็กคนนั้น” ระบบ Dynamic Touch จะช่วยเพิ่มความหลากหลายในการช่วยเหลือเด็กคนนั้นมากกว่าแค่การกดปุ่ม A แค่ปุ่มเดียว นั่นจะให้ความรู้สึกเข้าถึงการอุ้ม วิ่ง และพาออกมานอกบ้านที่กำลังไฟไหม้ได้มากกว่า “การทำให้สามารถสัมผัสกับผู้อื่นในฐานะคนปกครองและเห็นปฏิกิริยาตอบรับกลับมาได้ นั่นคือสิ่งที่เราต้องการครับ”
สุดท้าย นาย Molyneux บอกว่า “คุณจะได้เห็นความอยุติธรรมทุกรูปแบบบนเส้นทางเดินสู่อำนาจของคุณ” และแฟนๆทุกคนจะได้เริ่มต้นเส้นทางนั้นในปี ค.ศ. 2010 บนเครื่อง Xbox 360 เท่านั้นครับ
และหากใครอยากดู Teaser Trailer ตัวแรกของ Fable III ก็ตามลิงค์นี้ไปเลยครับ
